เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส, โอลาฟ โชลส์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และมาริโอ ดรากี นายกรัฐมนตรีอิตาลี เดินทางด้วยรถไฟไปยังกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเยือนยูเครนเป็นครั้งแรกของผู้นำ 3 ชาติมหาอำนาจยุโรป นับตั้งแต่รัสเซียยกทัพบุกโจมตียูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. หลังจากผู้นำทั้ง 3 คนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือกดำเนินนโยบายแบบระมัดระวังตัวจนเกินไป คือไม่ได้แข็งกร้าวกับรัสเซียมากนัก และไม่ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนยูเครนเต็มที่เช่นกัน
นอกจากนี้ ผู้นำทั้ง 3 คนได้เดินทางเยือนเมืองเออร์ปิน ชานกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการสู้รบกับกองทัพรัสเซีย โดยผู้นำอิตาลี ระบุกับสื่อที่ติดตามคณะว่า จะช่วยบูรณะเมืองนี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดเพิ่มเติม
ก่อนที่ทั้งหมด รวมทั้งประธานาธิบดีโรมาเนีย ซึ่งเดินทางมาร่วมคณะในภายหลัง จะเข้าพบกับโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งภาพการนั่งโต๊ะหารือร่วมกันในกรุงเคียฟนี้มีความหมายสำคัญ และถือเป็นสัญลักษณ์ว่าผู้นำ 3 ชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สนับสนุนยูเครน และชูประเด็นเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ผู้นำยุโรปหนุน "ยูเครน" เป็นสมาชิกอียู
ไฮไลต์ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทั่วโลกจับตามอง คือ การที่ผู้นำฝรั่งเศส เยอรมนีและอิตาลี ประกาศสนับสนุนยูเครนในการได้รับสถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) โดยทันที
ผู้นำอิตาลี ระบุว่า อิตาลีต้องการให้ยูเครนอยู่ในสหภาพยุโรป ขณะที่ผู้นำเยอรมนี ชี้ว่า ยูเครนเป็นครอบครัวยุโรปและยุโรปจะเดินหน้าสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนต่อไป
คณะกรรมาธิการยุโรปมีกำหนดร่วมประชุมในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ความเห็นกรณียูเครนยื่นสมัครสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งต้องได้รับการเห็นชอบจากทั้ง 27 ประเทศสมาชิก แต่ถึงแม้ยูเครนจะได้สถานะประเทศผู้สมัคร แต่อาจจะต้องรออีกหลายปีกว่าจะได้รับสถานะสมาชิกจริงๆ เพราะต้องมีการเจรจาอีกหลายวงและยูเครนต้องปฏิรูปประเทศให้เข้าเกณฑ์ของสหภาพยุโรปก่อน
ส่วนความเคลื่อนไหวของการสมัครเข้าเป็นสมาชิก NATO ต้องจับตาการประชุมที่จะจัดขึ้นในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้
ที่มา : Reuters, AP, AFP
อ่านข่าวอื่นๆ
สหรัฐฯ อัดฉีดเงินอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ช่วยยูเครนรบรัสเซีย
ชาวศรีลังกาแห่ทำ "พาสปอร์ต" หวังหนีวิกฤตเศรษฐกิจ
"ปักกิ่ง" ประกาศชัยชนะสู้ศึกโควิด-19 หลังใช้ยาแรงคุมระบาด