วันนี้ (23 มิ.ย.2565) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล เตรียมตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางจัดการปัญหาวิกฤต เศรษฐกิจ พลังงาน และค่าครองชีพ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหา วิกฤติเงินเฟ้อที่นายกรัฐมนตรียอมรับว่าย่ำแย่ 7.1% แต่อัตราการเติบโตของรายได้ประชาชนอยู่ที่ 1% ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 8.6%
นายพิธา ระบุว่า แม้จะดูภาพรวมว่าประเทศไทยไม่ได้ย่ำแย่มาก แต่อัตราการเติบโตรายได้ของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน หรือเรียกว่าเศรษฐกิจฟุ้งเฟ้อ และอยู่ในช่วงรอยต่อของสถานการณ์โควิด-19 จึงจำเป็นต้องใช้กลไกสภาผู้แทนราษฎรถามรัฐบาลเพื่อหาคำตอบร่วมกัน เรื่องวิกฤตพลังงาน วิกฤตอาหาร และวิกฤตรายได้ที่หายไป
ส.ส.พรรคก้าวไกล ชี้ปัจจัยวิกฤตเศรษฐกิจพลังงานขณะนี้ มีทั้งเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน และนายทุน โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันที่สต๊อกหายไปตั้งแต่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่รัสเซียบุกยูเครน และตามหลักการนำเข้าน้ำมันดิบ เพื่อหาค่าเฉลี่ยตัวเลขค่ากลั่นเหมาะสม แต่สิ่งที่เป็นปัญหาภายในประเทศ คือ การประคับประคองในช่วงนี้ ซึ่งมีการเน้นที่ปัญหาน้ำมันดีเซล แต่คนจำนวนมากเป็นกลุ่มเปราะบาง ที่ใช้เบนซิน เพราะคนกลุ่มเปราะบางที่ใช้ดีเซลมีจำนวนน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่ดีเซลเป็นเรื่องของค่าขนส่ง
ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจพลังงาน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า เป็นประเด็นหนึ่งที่จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งเป็นปัญหาภาพใหญ่ของประเทศ