แม้ว่าการเกษตรจะเป็นแหล่งสร้างอาหารของโลก แต่ก็อาจทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน เพราะต้องใช้ทรัพยากรหลายอย่างในการผลิต เช่น การใช้แหล่งน้ำจืดประมาณ 70% ของโลกเพื่อนำมาใช้ทำเกษตรกรรม ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้
บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการเกษตร ได้เสนอแนวคิดในการทำเกษตรกรรมแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาช่วยควบคุมปัจจัยการผลิต และหุ่นยนต์อัตโนมัติ ที่มีชื่อว่า Grover และ Phil มาทำหน้าที่เกษตรกรที่สามารถปลูกทุกอย่างได้ในเรือนกระจก
การทำเกษตรลักษณะนี้ เป็นการปลูกพืชในร่มที่ไม่จำเป็นต้องอาศัยสภาพดินฟ้าอากาศ หรือสารอาหาร เพราะมีระบบ AI คอยทำหน้าที่ควบคุมปัจจัยเหล่านี้ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมภายในโรงเรือน และที่สำคัญยังเป็นการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน เพราะใช้ระบบการเพาะปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมากเหมือนการปลูกพืชลงดิน จึงช่วยประหยัดน้ำในการเพาะปลูกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีหุ่นยนต์ Grover และ Phil ที่คอยทำหน้าที่เป็นเกษตรกรช่วยดูแลฟาร์ม โดย Grover มีแขนกลที่ช่วยขนย้ายกระถางปลูกผัก กล้อง และเซนเซอร์ LiDAR ที่ช่วยสแกนตรวจเช็กคุณภาพของผักที่ปลูก แขนกลของ Gover รับน้ำหนักได้มากถึง 450 กิโลกรัม ส่วนหุ่นยนต์ Phil นั้นทำหน้าที่ตรวจเช็กความต้องการของพืช เช่น ระดับไนโตรเจน ความเป็นกรดในน้ำ ปริมาณน้ำ และสารอาหารที่ต้องการ โดยทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการต่าง ๆ ของพืช
แม้ว่าการปลูกพืชในโรงเรือนจะมีระบบ AI และหุ่นยนต์ช่วยทำงานได้แล้ว แต่ก็ยังต้องไม่ได้ครบถ้วน 100% เพราะยังต้องอาศัยแรงงานคนบางส่วนเพื่อช่วยควบคุมการปลูกพืชอยู่ โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการผลิตให้มากขึ้น เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและพลังงานให้น้อยลง
ที่มาข้อมูลและภาพ: ironox, cnbc, austinchronicle
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech