วันนี้ (13 ก.ค.2565) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจจุดทำการค้าในพื้นที่เขตดุสิต 8 จุด ได้แก่
จุดที่ 1 ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่ป้ายรถประจำทางถนนพิษณุโลก ถึงประตูทางออกคุรุสภา (อยู่ระหว่างการทบทวน)
จุดที่ 2 หน้าตลาดเทวราช ฝั่งถนนพิษณุโลก (อยู่ระหว่างการทบทวน) ฝั่งถนนสามเสน (อยู่ระหว่างการทบทวน) ฝั่งถนนลูกหลวง (อยู่ระหว่างการทบทวน)
จุดที่ 3 ถนนสังคโลก ตั้งแต่ปากซอยสังคโลก (ฝั่งซ้าย) ถึงประตูทางเข้าสำนักงานตรวจสอบบัญชีกองทัพบก (อยู่ระหว่างการทบทวน)
จุดที่ 4 หน้าตลาดศรีย่าน ตั้งแต่แยกศรีย่าน ถึง ปากซอยศรีย่าน 1 ถนนนครไชยศรี
จุดที่ 5 ตรงข้ามกรมชลประทาน ปากซอยสามเสน 20 ถึงแยกศรีย่าน
จุดที่ 6 ตรงข้ามตลาดศรีย่าน ถนนนครไชยศรี ตั้งแต่แยกศรีย่าน ถึงหน้าบ้านเลขที่ 401/5
จุดที่ 7 หน้าตลาดราชวัตร ตั้งแต่หน้ากรมสรรพสามิต ถึงหน้าบ้านเลขที่ 137 และหน้าบ้านเลขที่ 757 ถึงปากซอยมิตรอนันต์
จุดที่ 8 ข้างวัดสะพานสูง ตั้งแต่ข้างถนนพระรามที่ 6 ตัดถนนเตชะวณิช ถึงกองซ่อมประปาบางชื่อ (บริเวณบ้านเลขที่ 268/2)
ทั้งนี้ มีนายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายธานินทร์ เนียมหอม ผู้อำนวยการเขตดุสิต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ และสำนักงานเขตดุสิต ร่วมลงพื้นที่และรายงานข้อมูล
นายจักกพันธุ์ ระบุว่า การใชัพื้นที่ร่วมกันทั้งการค้าขายและการเดินบนทางเท้าจำเป็นต้องหาทางออกร่วม จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2548 พื้นที่เขตดุสิต มีจุดทำการค้าอยู่ทั้งหมด 38 จุด
ปัจจุบันคงเหลือจุดทำการค้า จำนวน 8 จุด โดยได้ผ่านการพิจารณาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) แล้ว จำนวน 5 จุด มีผู้ค้าอยู่ประมาณ 486 คน
จุดทำการค้าเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามระเบียบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตั้งอยู่ในแนวเส้นสีขาว ไม่ยื่นล้ำออกมาโดยจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การค้าขายจะต้องมีกฎเกณฑ์ โดยดำเนินการในลักษณะให้ผู้ค้าดูแลกันเอง หากไม่ปฏิบัติให้เรียบร้อยอาจจะให้หยุดทำการค้าประมาณ 1 เดือน หากกรณีที่ยังปฏิบัติไม่เป็นไปตามระเบียบ ก็มีสิทธิที่จะยกเลิกจุดทำการค้าดังกล่าว
แต่ในขณะนี้จุดทำการค้าทั้ง 5 จุด ทางผู้อำนวยการเขตดุสิตรายงานว่า ผู้ค้าสามารถปฏิบัติภายใต้กฎระเบียบได้ดี อีกทั้งบริเวณตลาดศรีย่านในอดีตนั้น ถือว่าเป็นจุดทำการค้าตัวอย่างของพื้นที่เขตดุสิต
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจและผู้อำนวยการเขตดุสิต กำชับผู้ค้าให้ปฏิบัติตามระเบียบนั้นอย่างเคร่งครัด
ในขณะเดียวกันการกำหนดจุดทำการค้า โดยหลักเกณฑ์จะมีการต่อใบอนุญาตปีต่อปีซึ่งการจะต่อใบอนุญาตนั้น กรุงเทพฯจะเสนอไปยัง บช.น.เพื่อพิจารณาต่อไป
ขณะนี้ในพื้นที่เขตดุสิต มีจุดทำการค้าอยู่ 8 จุด ซึ่งมีอยู่เพียง 5 จุดเท่านั้นที่ บช.น.อนุญาตให้ทำการค้าได้ ส่วนที่เหลืออีก 3 จุด จะมีประเด็นในเรื่องทางเท้าแคบเป็นหลักขณะนี้ยังไม่มีการอนุญาต
แต่ในข้อเท็จจริงแล้วขณะนี้ผู้ค้ายังทำการค้าขายอยู่ ซึ่งสำนักงานเขตดุสิตและสำนักเทศกิจจะเสนอทบทวนเข้าไปใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ค้าจะตั้งวางของขายอยู่ 2 แนว ซึ่งมีผู้ค้าอยู่ประมาณ 172 คน การที่มีผู้ค้าตั้งอยู่ 2 แนวนั้นทำให้เกิดคับแคบและหนาแน่น ประชาชนเดินสวนกันลำบาก
ที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกันทั้งสำนักเทศกิจ สำนักงานเขต และ สน.ในพื้นที่ โดยจะให้ผู้ค้าที่อยู่แนวด้านนอกติดถนน ย้ายมาอยู่ด้านในที่อยู่ติดกับแนวกำแพงกระทรวงศึกษาธิการ
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างมีความเห็นตรงกันว่า หากย้ายมาอยู่ด้านในให้ติดแนวกำแพงจะช่วยลดความแออัดและช่วยกระจายผู้ค้าออกไปให้อยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งจะทำมให้ประชาชนสามารถใช้ทางเท้าได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ จะพิจารณาในเรื่องของร่มเพื่อให้เป็นรูปแบบเดียวกัน โดยอาจจะทำเป็นลักษณะยาว หรือ 4 เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อไม่ให้ยื่นล้ำออกมาในพื้นผิวจราจร โดยมอบหมายให้สำนักเทศกิจนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อาจจะเป็นธนาคารหรือห้างร้านหรือผู้ค้าเอง เพื่อจะได้มีร่มที่ใช้สำหรับกันแดดกันฝนในรูปแบบลักษณะเดียวกัน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
พื้นที่ทางเท้ากว้าง 3 เมตร ให้ผู้ค้าทำการค้าขาย 1 เมตร ส่วนที่เหลืออีก 2 เมตร เป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้เดินทางสัญจร เป็นการใช้พื้นที่ทางเท้าให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ผู้ค้ามีพื้นที่ตั้งวางขายสินค้า และประชาชนคนเดินถนนได้แวะจับจ่ายใช้สอย