วันนี้ (22 ก.ค.2565) เวลา 09.30 น. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปมปัญหาตั๋วช้าง ในวงการตำรวจ ที่นำมาสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ สะท้อนโครงสร้างตำรวจที่อยู่ภายใต้ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ปกป้องคนผิด และปกปิดการประพฤติมิชอบ และขับคนที่ซื่อสัตย์ออกจากระบบ
นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า มีกรณีการสั่งการจากผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ย้ายไปเป็นตำรวจที่หน่วยแห่งหนึ่ง สร้างความอึดอัดใจให้กับตำรวจจำนวนมาก
ต่อมามีการตั้งกระทู้รวมทั้งส่ง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม มาตอบ ซึ่งแม้ท่านจะชื่อ “ช้าง” แต่ไม่รู้อะไรเรื่องตั๋วช้าง เพราะไม่เคยรู้เรื่องตำรวจหน่วยนี้มาก่อน เพราะไม่ได้คุม ทำให้ตอบผิดฝาผิดตัว และทั้ง 2 คนก็ไม่ได้ชี้แจงว่า การย้ายมาเป็นตำรวจหน่วยนี้ เป็นไปตามกฎหมาย หรือประสบชะตากรรมอย่างไร
ตั้งแต่ปี 2562 สิ่งที่ตำรวจกลุ่มนี้เผชิญ ทั้งหมดต้องย้ายขาดจากหน้าที่เดิม บางคนยืนเวร 2 วันติดต่อกัน การขอหยุดขาดลา ยากเย็นเมียจะคลอดแม่จะตายไม่ได้ และถ้าไม่ไหวยื่นซองขอลาออกก็จะถูกลงโทษ
“การจบชีวิตของนายตำรวจคนล่าสุด รู้สาเหตุ และมีพยานครอบครัวของนายตำรวจคนนี้ ขณะที่ยังมีอีกมากที่ตำรวจไม่อยากอยู่รับราชการ ส่วนคนที่สั่งการทั้ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย และพล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง และอีก 1 นาย ที่รับปากว่าจะย้ายตำรวจกลับมาภายใน 2 ปี กำลังได้ดี แต่กลับปล่อยให้ 500 คนติดอยู่ในนั้น
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีความเห็นใจ นายตำรวจชั้นผู้น้อย ขอให้สั่งการอย่างน้อยถามความสมัครใจว่าตำรวจคนใด อยากกลับตำแหน่งเดิม ถือเป็นขั้นต่ำที่สุดแล้วที่คนเป็นนายกฯจะทำให้กับพวกเขาได้
นอกจากนี้ ยังอภิปรายถึง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตผู้ช่วย ผบช.ภาค 8 ที่ต้องถูกบีบให้หนีตายไปต่างประเทศ
อีกด้านที่น่าอัปยศที่ซุกใต้พรมสีกากี ของตำรวจที่แต่ถูกอุ้มชูให้อยู่สบาย นายกฯ ไม่เคยแก้แต่อุ้มคนทุจริต เปลี่ยนผิดให้เป็นชอบ
พร้อมกับระบุว่าจะอภิปรายหลายเรื่องไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน จากนั้นเปิดคลิปสั้นที่อ้างว่า รัฐบาลรู้ว่าจะโดนเล่นงานเรื่องนี้ และพล.อ.ประยุทธ์ มีการเคลื่อนไหวเพื่อรับมือการอภิปราย ซึ่งจะรอดูน้ำยาว่านายกรัฐมนตรี มีเวลาทำการบ้านพอ แล้วก็ขอให้ชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัยด้วย
เปิดงบซ่อมเครื่องบินปริศนาราคาพุ่ง 2,774 ล้าน
นายรังสิมันต์ อภิปรายเรื่องพฤติกรรมก่อหนี้เกินงบในปี 2563 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีกองบินตำรวจ ได้รับงบซ่อมบำรุงอากาศยาน 950 ล้านบาท และทำสัญญาว่าจ้าง มีพล.ต.ต.(ก.) เซ็นสัญญากับการบินไทย แต่จากนั้น 1 ต.ค.2563 ได้เลื่อนเป็นที่สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
แต่จากเอกสาร และกฎหมายที่ควรใช้งบตามที่ตั้งไว้ แต่ปรากฏว่าในเดือน ก.ย.2564 การบินไทยส่งหนังสือทวงหนี้มา ระบุว่า ก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินงบสูงถึง 1,824 ล้านบาท เท่ากับใช้งบซ่อมอากาศยาน 2,774 ล้านบาท และกองบินตำรวจไม่สามารถเบิกจากคลังได้
นายรังสิมันต์ ระบุว่า การตั้งงบ 950 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าซ่อม ตั้งเบิก 520 ล้านบาท แต่ใช้จริง 71 ล้านบาท ค่าอะไหล่ 235 ล้านบาท ใช้จริง 764 ล้านบาท เท่ากับ 324 %
น่าสงสัยว่าเป็นความตั้งใจตรวจเช็กให้น้อย เพื่อให้เครื่องพังและซื้อเครื่องใหม่ เป็นการตั้งใจตรวจ เช็ก น้อยเพราะกินจากงานซื้อง่าย กว่างานซ่อมหรือไม่
เผยภาพตาข่ายไฟฟ้า 5 ล้านที่แท้ราคาหลักแสน
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังระบุว่า งบ 2,774 ล้านบาท มีการนำไปใช้จัดซื้อของที่ไม่อยู่ในขอบเขตสัญญาเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง 784 ล้านบาทหรือคิดเป็น 28.3 % เช่นซื้อถังน้ำดับไฟป่า 8 ล้านบาท ตะขอเกี่ยวสินค้า 6.3 ล้านบาท และรายการที่ตั้งชื่อว่าระบบไฟฟ้าไล่นก 5 ล้านบาท
แต่ของจริงคือ ติดตาข่ายกันนกที่โรงเก็บเครื่องบินรวม 7 โรง 35 ล้านบาท และยังน่าสงสัยว่าจะมีเงินทอนหรือไม่ เพราะราคาตาข่ายคำนวณพื้นที่หลักแสนบาทต่อโรง หรือแม้ไฟฟ้าไล่นก มีเสือนอนกิน อิ่มพุงกางไปกี่ตัว
เรื่องนี้เสียหายมาก เพราะค้างหนี้แล้วไม่มีเงินจ่ายให้การบินไทย ทำให้อะไหล่ 25 รายการ รวมค่าซ่อม 150 ล้านบาท ตอนนี้มีเครื่องบิน 11 ลำไม่ได้ปฏิบัติภารกิจ พร้อมระบุว่ากรณี ฮ.ตกรุ่นเบลล์ 429 เพราะขาดการซ่อมบำรุงหรือไม่ และเป็น 1 ในเครื่อง ที่การบินไทยดูแลเรื่องการซ่อม จะเป็นสาเหตุที่ไม่ได้ซ่อมหรือการบินไทยไม่ได้เซ็นซ่อม แต่โชคดีที่นักบินปลอดภัย
ส่วนการตรวจสอบประเด็นนี้รายงานผลให้ผบ.ตร.แล้ว แทนที่นำเข้าสู่การหาคนผิด ที่มีเอกสารชัดเจน แต่พล.ต.อ.ปิยะ ยังให้เรื่องไปกองวินัยตำรวจให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นการเริ่มต้นสอบทั้งที่ทำมารอบแรก 6 เดือน และจนถึงปลายเดือนเม.ย.2565 ก็ยังวุ่นวายการเปลี่ยนตัวกรรมการอีก
เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีเซนรับทราบแล้ว แต่ยังไม่ความคืบหน้าที่จะทำให้เอาคนผิด หย่อนยานและไม่ต้องเสียเงินใช้หนี้ก้อนนี้ ให้กับการบินไทย แต่สุดท้ายก็มีการอนุมัติงบกลางไปจ่ายใช้หนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรี ปัดดีลพรรคเล็กโหวตหนุน-รอลุ้นลงมติ 23 ก.ค.นี้
“อนุทิน” ชี้สูตรหาร 500 ปาร์ตี้ลิสต์ อาจไม่ถึงตัวเอง