วันนี้ (22 ส.ค.2565) ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา และผอ.กลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์ และการจัดการศูนย์พันธุวิศวกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana ระบุว่า พบ เคสแรกของผู้ป่วยฝีดาษลิง-โควิด-HIV-1 ในประเทศอิตาลี
ข้อมูลจากวารสารวิชาการ Journal of Infection ที่มีการรายงานเคสของผู้ป่วยฝีดาษลิงคนหนึ่ง ที่มีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศสเปน ขณะที่อยู่ที่นั่นได้มีกิจกรรมทางเพศแบบชายรักชายแบบไม่ป้องกัน
โดยชายคนนี้ มีอาการนำประกอบด้วย ไข้ อ่อนเพลีย เจ็บคอ ปวดศีรษะ และต่อมน้ำเหลืองโต ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีอาการ ตุ่มหนองบนร่างกายบริเวณ แขน ลำตัว ฝ่ามือ นิ้ว ขา สะโพก
ผลยืนยันจากห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลยืนยันว่าผู้ป่วยรายนี้มีเชื้อฝีดาษลิง สายพันธุ์ที่ระบาดในสเปน ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ BA.5.1 และยังมีเชื้อ HIV-1 อยู่ในร่างกาย ด้วย อาจเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยรับเชื้อ HIV มาก่อนหน้านี้ไม่นาน และไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีเชื้ออยู่
ภาพ : Anan Jongkaewwattana
วิเคราะห์ไทม์ไลน์ป่วย 3 โรคพร้อมกัน
ทั้งนี้ จากการดูประวัติการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มาแล้ว 2 เข็ม ติดโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปีด้วยสายพันธุ์ BA.1 ครั้งที่ 2 สายพันธุ์ BA.5.1 และจากรายงานที่พบ ATK เป็นบวกในเวลาใกล้ๆ กับที่มีผื่นขึ้น อนุมานได้ว่าผู้ป่วยคนนี้น่าจะได้รับเชื้อฝีดาษลิงมาก่อน และได้รับเชื้อโควิด- 19 มาในช่วงระยะฟักตัวของฝีดาษลิง เนื่องจากโควิด-19 มีระยะฟักตัวที่สั้นกว่าอาการนำอะไรต่างๆ จึงเกิดขึ้นมาพร้อมๆกันจนแยกไม่ออกว่าอาการที่เห็นมาเป็นผลมาจากเชื้อไหนกันแน่
และในช่วงท้ายของการเขียนเนื้อหานี้ มีการพูดถึงผู้ที่อาจสงสัยว่าโควิด-19 กับ ฝีดาษลิง จะผสมกันเป็นไวรัสตัวใหม่ได้หรือไม่ ดร.อนันต์ ตอบว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะโควิด-19เป็นไวรัสที่มี RNA เป็นสารพันธุกรรม แต่ ฝีดาษลิงเป็น DNA จึงไม่น่าจะผสมกันได้
ภาพ : Anan Jongkaewwattana
ยืนยันผู้ป่วยฝีดาษวานรในไทยมี 5 คน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฝีดาษลิง ไม่ใช่โรคที่มีอาการรุนแรงหรือติดต่อได้ง่าย จากการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วย 2 คนแรก จนครบกำหนดระยะฟักตัว 21 วัน เช่นผู้สัมผัสร่วมบ้านที่อยู่ด้วยกันเป็นสัปดาห์ ยังไม่มีใครติดเชื้อ เมื่อครบกำหนดตรวจซ้ำ ยิ่งมั่นใจว่าโรคนี้ไม่ได้ติดกันง่ายๆ หากจะติดต้องสัมผัสใกล้ชิดกันจริงๆ
ขณะนี้ในไทยพบผู้ป่วยยืนยันโรคแล้ว 5 คน เป็นชาวต่างชาติ 2 คน สัญชาติไทย 3 คนโดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยยืนยันรายแรก และรายที่ 2 ครบกักตัว 21 วันแล้วจำนวน 40 คน ไม่พบอาการป่วยและได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ ไม่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม