เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้ นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และ นายพายัพ คชพลายุกต์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษเข้าปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) วางแผนเพื่อทำการจับกุมข้าราชการระดับสูงของวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พฤติการณ์กล่าวคือข้าราชการคนดังกล่าว ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ อนุมัติให้จัดทำโครงการจัดพิธีกรรมทางศาสนาพิธีบวงสรวงเทพยดาผู้รักษาเครื่องเกียรติยศประกอบศพ ณ วัดใหญ่ชัยมงคล ในวันที่ 23 ส.ค.2565 ซึ่งใช้เงินงบประมาณของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในจำนวน 80,000 บาท
โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณ ทำเรื่อง สัญญาว่าจ้าง กับผู้รับจ้างจัดงานโครงการดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 80,000 บาท แต่ไม่ได้มีการว่าจ้างกันจริง เนื่องจาก ผู้รับจ้างไม่ได้เป็นผู้จัดหาหรือจัดทำตามรายการใบเสนอราคา และใบสั่งจ้างของ สำนักงานวัฒนธรรมฯ แต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมฯ เป็นผู้ทำเอกสารการว่าจ้างมาเองทั้งหมดให้ ผู้รับจ้าง ลงชื่ออย่างเดียว
ซึ่งผู้แจ้งเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินไปโดยมิชอบ และข้าราชการระดับสูงรายดังกล่าวเคยมีพฤติกรรม ทุจริตในลักษณะดังกล่าว หลายครั้งแล้ว เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
เบื้องต้นในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ซึ่งพนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นแล้วส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากล่าวหา 3 ข้อหา การกระทำความผิดตาม มาตรา 147 เป็นเจ้าพนักงานของรัฐยักยอกทรัพย์ มาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 151 เป็นเจ้าพนักงานของรัฐใช้ตำแหน่งทุจริต