นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบีย เดือน ม.ค.-ส.ค.2565 จำนวน 43,114 ล้านบาท ขยายตัว 15.9% ถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลพร้อมขยายตลาดสินค้าอื่นๆ ต่อไปในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ ซึ่งตัวอย่างสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย มีทั้งรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องจักรและส่วนประกอบของ เครื่องจักร รวมถึงอาหารสัตว์ เป็นต้น
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้รายงานความคืบหน้าใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การทำสัญญาซื้อขายสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท
2. แผนจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ซาอุดีอาระเบีย ตั้งเป้าหมายทำมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 10,000 ล้านบาทภายใน 1 ปี รวมทั้งจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการส่งออก (Export Clinic) เพื่อให้คำปรึกษา กฎระเบียบ มาตรการ ตลอดจนให้บริการระบบการขนส่ง และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย โดยจะนำสินค้าไทยไปร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญที่ซาอุดีอาระเบีย
3. การจัด Webinar ส่งเสริมการค้าการลงทุนในสาขาสำคัญ เช่น ปิโตรเคมี การก่อสร้าง เหล็ก อะลูมิเนียม อาหาร การเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมการส่งออก โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมฯ และกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย
4. ถึงเร่งรัดการหารือ FTA ไทยกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-ซาอุดีอาระเบีย (JTC) ซึ่ง รมต.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบียให้ความเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะจัดตั้งให้เป็นเวทีเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศต่อไป
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสานต่อความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดใหม่มีศักยภาพและกำลังเติบโต รวมทั้งเป็นประตูสู่ประเทศตะวันออกกลางและต่อยอดไปภูมิภาคอื่นๆ เป็นโอกาสในการนำเสนอสินค้าและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย