วันนี้ (2 พ.ย.2565) กฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้วันแรก โดย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อได้พิจารณาศึกษาบทบัญญัติในกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนที่จะได้จากการปลดล็อกการผลิตสุรา จะกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และสร้างประเทศที่ไม่ผูกขาด และผู้บริโภคก็ยังปลอดภัย
ซึ่งการปรับกฎที่สำคัญคือ อนุญาตให้ผู้ผลิตที่ไม่ใช่เพื่อการค้าได้รับอนุญาตสามารถผลิตสุราในครัวเรือนได้หากต้องการเป็นผู้ผลิตก็สามารถทำได้
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า เป็นการพร้อมเปิดโอกาสให้การผลิตสุราสามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น เป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการรายเล็ก ปลดล็อกทั้งในเรื่องทุนจดทะเบียนและกำลังการผลิตขั้นต่ำ สามารถยกระดับสุราชุมชนจากขนาดเล็กไปสู่ขนาดกลาง
ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เปิดโอกาสธุรกิจให้เติบโตสามารถขยายกิจการได้ รวมถึงเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการนำสินค้าเกษตรมาแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตยังคงให้ความสำคัญและคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย สาธารณสุข สังคม และสิ่งแวดล้อม จึงมีกรอบการปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและผลกระทบตามมา
ข้อแตกต่างจากกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. 2560
โรงเบียร์ขนาดเล็ก ผลิตเบียร์เพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต
กฎเดิม : ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทกำลังการผลิต 100,000 ลิตรถึง 10,000,000 ลิตรต่อปี และเป็นบริษัทตามกฎหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%
กฎใหม่ : ผู้ผลิตขนาดใหญ่ยกเลิกทุนจดทะเบียน ยกเลิกกำลังการผลิต ต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานให้ระบบการพิมพ์เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการและจัดทำรายงานตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
โรงเบียร์ ผู้ผลิตขนาดใหญ่
กฎเดิม : ทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทกำลังการผลิต 100,000 ลิตรถึง 10,000,000 ลิตรต่อปี และเป็นบริษัทตามกฎหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%
กฎใหม่ : ผู้ผลิตขนาดใหญ่ยกเลิกทุนจดทะเบียน ยกเลิกกำลังการผลิต ต้องเป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานให้ระบบการพิมพ์เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีของทางราชการและจัดทำรายงานตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
สุรากลั่นและสุราแช่ที่ไม่ใช่เบียร์ ขนาดเล็ก
กฎเดิม : ต้องเป็นสหกรณ์วิสาหกิจชุมชนองค์กรเกษตรกรห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือบริษัทใช้เครื่องจักรต่ำกว่า 5 แรงม้า
กฎใหม่ : โรงสุราการและสุราแช่ที่ไม่ใช่เบียร์ขนาดเล็กยังใช้หลักเกณฑ์เหมือนเดิมและถ้าผลิตสุรามาแล้วหนึ่งปีโดยไม่มีการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตสามารถขยายขนาดโรงงานไม่เกิน 50 แรงม้า
สุราแช่ขนาดใหญ่
กฎเดิม : เป็นบริษัทตามกฎหมายไทยมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่า 51%
กฎใหม่ : เป็นโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
1.เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็ก
กฎเดิม : ใช้เครื่องจักรในการผลิต ต่ำกว่า 5 แรงม้า ใช้คนงานน้อยกว่า 7 คน
กฎใหม่ : สูงกว่า 5 แรงม้า - ไม่เกิน 50 แรงม้า ใช้คนงานตั้งแต่ 7 คน - ไม่เกิน 50 คน
1.เปิดโอกาสให้สุราชุมชนผู้ผลิตสุราชุมชนที่จะขยายกำลังการผลิตจากระดับเล็กเป็นระดับกลาง
- ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือสุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- ไม่เคยกระทำความผิดตามกฎหมายภาษีสรรพสามิตหรือเคยกระทำความผิดและพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี
- ต้องใช้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ตามมาตรฐานที่อธิบดีประกาศกำหนดและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและกฎหมายเกี่ยวกับการสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
2.เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์และนิติบุคคลสามารถขอใบอนุญาตผลิตสุรา
- ที่มิใช่เพื่อขาย แลกเปลี่ยนหรือดำเนินการอื่นใดโดยได้รับประโยชน์ตอบแทน
- ต้องมีปริมาณการผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปีสถานที่ผลิตสุรา
- สุรา เบียร์ หรือสุราแช่ประเภทอื่น เมื่อผลิตแล้วต้องให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
- ต้องมีพื้นที่เพียงพอที่จะผลิตสุราโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น
- มิใช่สถานที่ผลิตสุราของผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตสุรารายอื่นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของการบริโภคสุราและมิติของสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ความเห็น "วิษณุ-เท่าพิภพ" หลัง แก้กฎกระทรวงปลดล็อกผลิตสุรา
"พิธา" ชี้รัฐบาลปาดหน้า หวังคว่ำ พ.ร.บ.สุราก้าวไกล
รัฐแจงยิบประโยชน์ 9 ข้อออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา ยันไม่ได้ตัดหน้าใคร
ราชกิจจาฯ ประกาศกฎกระทรวง ปลดล็อก "การผลิตสุรา" มีผลบังคับใช้ 2 พ.ย.