นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ผู้ผลิตรายการแบไต๋ ไฮเทค กล่าวในรายการ Newsroom Daily รายการออนไลน์ไทยพีบีเอสว่า ไม่แปลกใจที่ทวิตเตอร์และ Meta ปลดพนักงานในช่วงนี้ เพราะวันเป็นวัฏจักร
โดยมองว่าหลังจากนี้ ทวิตเตอร์ถ้าไม่รุ่งก็ร่วงเลย เพราะมุมมองของอีลอน มัสก์ ผู้บริหารคนใหม่ เข้ามาบริหารด้วยความเดือดดาล โดยปรับแต่งทวิตเตอร์ให้ดีขึ้นด้วยโปรแกรมเมอร์จากเทสล่า (Tesla) ซึ่งแต่จะทำได้หรือไม่
ทวิตเตอร์ประสบปัญหาหุ้นตก รับแรงกดดันจากนักลงทุนในการทำกำไร องค์กรอ้วน มีคนแฝงเข้ามาอยู่กับความเติบโตจำนวนมาก
ขณะที่เฟซบุ๊กกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง หลายคนเบื่อเฟซบุ๊ก เพราะไม่ใช่พื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ แต่กลับเป็นพื้นที่ที่ละเหี่ยใจ มีแต่คนทะเลาะกัน เนื่องจากอัลกอริทึมเสิร์ฟรสนิยมสังคมมาให้ผู้ใช้งานแทนความสนใจส่วนบุคคล
อัลกอริทึมค่อนข้างจุ้นจ้านกับเราพอสมควร อยากให้เราคบใคร สนิทกับใคร มันจัดการให้เลย
ซึ่งแตกต่างจากอัลกอริทึมของ TikTok ที่ใช้บรรณาธิการจัดการเรื่องตามที่ผู้ใช้บริการต้องการ
นายพงศ์สุข อธิบายว่า "ธุรกิจสายเทค" เป็นธุรกิจบริการ นับการเติบโตจากยอด Conversion Rate แปลงคนจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ ผู้ใช้บริการ คือมูลค่าและสินค้าของธุรกิจ ทำหน้าที่ใส่ข้อมูล โพสต์เรื่องราวต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม ซึ่งเขาจะนำสิ่งเหล่านี้มาดึงดูดการลงทุนเพิ่ม แตกต่างจากธุรกิจด้านอื่น ๆ ที่ดูผลประกอบการเป็นอย่างไร มีต้นทุนและกำไรเท่าไหร่
ขณะเดียวกันเสริมว่า ตำแหน่งงานที่ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กปลดออก เป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ Touch Point (การติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภค) ขณะที่ตำแหน่งแกนหลักและตำแหน่งสำคัญอย่างโปรแกรมเมอร์และงานข้อมูลยังคงต้องมี
กลุ่มนี้อาจถูกปลดออกช้าที่สุด หรือไม่ก็ไม่ถูกปลดออกเลย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
บริษัทแม่ "เฟซบุ๊ก" เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่
ยูเอ็นวอน "อีลอน มัสก์" ให้ความสำคัญสิทธิมนุษยชน
"ทวิตเตอร์" เตรียมเก็บค่ายืนยันตัวตนจากผู้ใช้งานบางประเทศ