ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ป.ป.ส.ถกคุมขนส่งฯ สกัดยาเสพติด ตรวจพบปรับบริษัทด้วย 5 หมื่น

อาชญากรรม
15 พ.ย. 65
12:05
251
Logo Thai PBS
ป.ป.ส.ถกคุมขนส่งฯ สกัดยาเสพติด ตรวจพบปรับบริษัทด้วย 5 หมื่น
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขา ป.ป.ส.เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการขนส่งเอกชน จัดระเบียบป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านโลจิสติกส์ โดยจะต้องแสดงบัตรประชาชนทั้งผู้ส่งและผู้รับสินค้า หากพบยาเสพติดผ่านบริษัทขนส่ง ปรับ 50,000 บาท

วันนี้ (15 พ.ย.2565) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะการขนส่งผ่านระบบโลจิสติกส์ ผ่านพัสดุภัณฑ์ของบริษัทต่าง ๆ หลังก่อนหน้านี้พบมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากค่าขนส่งราคาถูกและขนส่งได้ครั้งละจำนวนมาก จากที่เคยถูกจับได้ พบว่าการขนส่งยาบ้า 360,000 เม็ด ผ่านบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง เสียค่าส่งเพียง 660 บาทเท่านั้น

นายวิชัย ระบุว่า ในวันที่ 23 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเปิดประชุมปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและจะออกกฎระเบียบในเรื่องดังกล่าวให้เข้มงวดขึ้น โดยหลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการขนส่งเอกชนทุกบริษัทมารับทราบแนวทางการปฏิบัติการรับส่งพัสดุภัณฑ์ โดยจะให้ผู้ส่งและผู้รับแสดงตัวด้วยบัตรประชาชน ก่อนที่จะรับส่งสินค้า รวมบริษัทที่รับส่ง จะต้องติดกล้องวงจรปิด ขณะที่ลูกค้าเข้ามาส่งสินค้า รวมถึงจะต้องเก็บข้อมูลการส่งเป็นระยะเวลา 120 วัน

อีกทั้งที่ผ่านมายังพบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดแฝงตัวเข้ามาเป็นพนักงานบริษัทขนส่งและรับยาเสพติดไปส่งปลายทาง ทำให้การออกมาตรการในครั้งนี้จะให้บริษัทต่าง ๆ เข้มงวดและตรวจสอบประวัติพนักงานห้ามข้องเกี่ยวกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังกล่าวอีกว่า หากผู้ประกอบการฝ่าฝืน และปล่อยปละให้มีการขนส่งยาเสพติดผ่านบริษัทของตนเอง จะมีโทษปรับ 50,000 บาทต่อครั้ง และหากยังกระทำผิดซ้ำก็จะพิจารณาโทษทางอาญา หรือ เพิกถอนใบอนุญาต

ส่วนกรณีลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านพัสดุโดยการซุกซ่อนไว้ในเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง และสินค้าประเภทอื่นๆอีกหลายชนิด หากผู้ประกอบการได้รับแจ้งจากลูกค้าว่าได้ส่งสินค้าชนิดใด แล้วพนักงานสงสัยจะต้องนำสินค้านั้นไปเปรียบเทียบน้ำหนักจากความเป็นจริง หากต้องสงสัยจะต้องตรวจสอบทันทีว่าผิดกฎหมายหรือใม่

นอกจากนี้ นายวิชัย ระบุว่า สำหรับราคายาเสพติดที่ถูกลงเป็นผลมาจากราคาต้นทุนจากโรงงานผลิตยาบ้า อยู่ที่เม็ดละ 50 สตางค์ ทำให้ ราคาขายเหลือเม็ดละไม่ถึง 10 บาท แต่ก็เห็นว่า ราคายาเสพติดที่ถูกลงจะทำให้ผู้ขายลดน้อยลงไปด้วย เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง หากถูกจับกุมจะไม่คุ้มกับกำไรที่ได้

ส่วนกรณีที่มีข่าวรายวันคนคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ได้ชี้แจงว่า ได้จำแนก กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มี 3 ส่วน ส่วนแรก คือ ผู้ใช้ทั่วไป (เสพเป็นครั้งคราว) คิดเป็น ร้อยละ 10 ส่วนที่ 2 ผู้เสพ ร้อยละ 60 และ ผู้ติด ร้อยละ 30 และในจำนวนนี้ มีเพียงร้อยละ 5 ที่มีอาการทางจิตเวช ที่ต้องเฝ้าระวังในการไปทำร้ายผู้อื่น

ล่าสุด กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งไม่อนุญาตให้นำเข้าและส่งออกสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์ และเบนซินคลอไรด์ ที่เป็นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนหน้านี้พบว่า มีการนำเข้าและส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านผ่านประเทศไทย โดยไม่ตรวจสอบบริษัทปลายทางว่ารับสารเคมีดังกล่าวไปประกอบกิจการผิดประเภทหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง