วันนี้ (16 พ.ย.2565) กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าจากการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ในผู้ป่วยกลุ่มอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ และกลุ่มอาการปอดบวมจากโรงพยาบาลเครือข่ายของกรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ก.ย.นี้ มีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 547 คน โดยพบมากที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี รองลงมาคือ 3-5 ปี และ 6-15 ปี
การเฝ้าระวังและตรวจสอบข่าวการระบาดของกรมควบคุมโรค ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.–9 พ.ย.นี้ พบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส RSV เสียชีวิต 3 คน โดยเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และมีโรคประจำตัว
นอกจากนี้พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน 1 เหตุการณ์เกิดขึ้นในเรือนจำ พบผู้ป่วยเป็นผู้ใหญ่ 6 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต
เช็กอาการโรคติดเชื้อ RSV
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า คาดว่าจะพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ และจากการสูดหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศในรูปละอองฝอยจากการไอ จาม ของผู้ป่วย
โดยไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังสัมผัสเชื้อไวรัสในระยะเวลา 4-6 วัน และเมื่อป่วยจะสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน
สำหรับอาการโดยทั่วไปอาจจะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการจำเพาะของเชื้อนี้ มักพบในเด็กเล็ก คือ หลอดลมฝอยอักเสบ โดยเริ่มแรกจะมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จนถึงอาการรุนแรง เช่น หายใจหอบเหนื่อย อกบุ๋ม ได้ยินเสียงปอดผิดปกติ เสียงหายใจมีเสียงหวีด รับประทานอาหารได้น้อย และซึมลง การรักษา ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ
สังเกตอาการ-เลี่ยงทำกิจกรรมคนแน่น
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะผู้ปกครอง และผู้ดูแลเด็กเฝ้าระวังสังเกตอาการป่วยของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโรคประจำตัว หากพบว่ามีอาการคล้ายไข้หวัด ให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา
การป้องกันโรคให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณหน้า ตา จมูก ปาก ไม่ใช้ภาชนะอาหารและของใช้ส่วนตัวร่วมกันผู้อื่น รักษาสุขอนามัยส่วนตัว ทำความสะอาดบ้านรวมทั้งของเล่นเด็กเป็นประจำ
นอกจากนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้มีอาการป่วย ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่น ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยควรงดการออกนอกบ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น ปิดปากปิดจมูกทุกครั้งเวลาไอจาม ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422