การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง แชมป์เก่าฝรั่งเศส เจอกับม้ามืดอย่างโมร็อกโกทีมจากทวีปแอฟริกา
เกมนี้ ฝรั่งเศสเปิดเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นและได้ประตูแรกในนาทีที่ 5 จากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ กระชากมาทางกราบขวาและตัดบอลให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้ยิงในเขตโทษ แต่บอลไปติดกองหลังของโมร็อกโก กระดอนวิ่งไปเข้าทางของ เตโอ แอร์ นองเดซ ตวัดยิงด้วยซ้ายบอล เปิดประตูแรกให้ฝรั่งเศสนำตั้งแต่ต้นเกม 1-0
พอโดนประตูแรก โมร็อกโก ก็เร่งเกม และนาทีที่ 10 ก็มีโอกาสได้ประตู จาก อัซเซดีน อูนาฮี ที่ยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปติด อูโก้ ยอริส ที่ปัดทิ้งได้อย่างหวุดหวิด
ส่วนฝรั่งเศสก็มีโอกาสได้ลูกที่ 2 ในนาทีที่ 16 ทั้งการยิงไปชนเสาของโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ได้หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ยาสซีน โบโน แต่ว่า ชิรูด์ กดไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 35 ที่เอ็มบัปเป้ ลากไปยิง แต่ว่าไปติดกองหลังในจังหวะแรก และบอลก็มาเข้าทาง ชิรูด์ ที่ได้ยิงโล่ง ๆ แต่ว่ายิงออกไปแบบเหลือเชื่อ
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 โมร็อกโก ก็เกือบได้ลูกตีเสมอจากลูกเตะมุม ที่บอลมาเข้าทาง จาวาด เอล ยามิค ได้ตีลังกายิงแบบสุดสวย แต่ อูโก้ ยอริส ก็เซฟได้อย่างหวุดหวิด และจบครึ่งแรกที่ฝรั่งเศสนำ 1-0
จากนั้นครึ่งหลัง โมร็อกโก ก็ใส่เกมบุกเต็มตัวแต่แนวรับของฝรั่งเศสก็ยังไม่พลาด และนาทีที่ 78 ฝรั่งเศสก็นำ 2-0 มาจากจังหวะโต้กลับที่ เอ็มบัปเป้ เล่นชิ่งกับ มาร์คัส ตูราม ซึ่ง เอ็มบัปเป้ ได้ยิงจังหวะแรกแต่ไปติดกองหลังของโมร็อกโก บอลไหลมาเข้าทางของ โคโล มูอานี ได้ยิงโล่ง ๆ
ส่วนในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90 + 4 โมร็อกโก ก็เกือบได้ประตูตีไข่แตก จาก อัซเซดีน ฮูนาฮี ที่ได้กดจากปากประตู แต่ ฌูลส์ กุนเด้ สกัดบอลออกไปได้อย่างหวุดหวิด
ทำให้จบเกม เป็น แชมป์เก่าฝรั่งเศส เอาชนะ โมร็อกโกไป 2-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ กับ อาร์เจนตินา ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธ.ค.นี้เวลา 22.00 น. ส่วน โมร็อกโก ไปเจอ โครเอเชีย ในรอบชิงอันดับ 3 ในวันเสาร์ที่ 17 ธ.ค.