"อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวไว้ 2 วันที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยไม่ปิดกั้น ยินดีร่วมงานนักการเมืองทั่วทุกทิศ คำถามนี้ปรากฏขึ้นภายหลังกระแสข่าว ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เตรียมโบกมือลาต้นสังกัด ร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย
ข่าวลือมีแนวโน้มเป็นข่าวจริง เมื่อมีผู้แทนราษฎรตัดสินใจยื่นเอกสารลาออกจากตำแหน่งหลังการประชุมสภาเมื่อวานนี้ ผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งโดยประชาชนที่ตัดสินใจลาออก ทั้งที่ยื่นลาออกนานแล้ว และเพิ่งยื่นเมื่อวานรวมทั้งหมด 31 คน มาจากพรรคพลังประชารัฐ 11 คน พรรคเพื่อไทย 7 คน พรรคก้าวไกล 5 คน พรรคเศรษฐกิจไทย 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคเพื่อชาติ พรรครวมพลัง พรรคเสรีรวมไทย พรรคละ 1 คน
อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย แต่ในจำนวนนี้ มีบางคนที่ยืนยันแล้ว และมีบางคนที่ปฏิเสธได้ยาก ว่าจุดประสงค์ของการลาออก อาจเป็นไปเพื่อย้ายต้นสังกัด เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ขณะที่นักวิชาการด้านการเมืองการปกครองอ่านหมากการเมืองกระดานนี้ ฉายภาพไม่ต่างจากการเมืองในอดีต ช่วงก่อนการเลือกตั้ง
พรรคภูมิใจไทย ได้ ส.ส.จากการเลือกตั้งครั้งก่อน 51 คน เป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 5 และเป็นพรรคใหญ่ลำดับ 3 ในขั้วจัดตั้งรัฐบาล
ปัจจุบัน จากรายงานของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องลงสนามเลือกตั้งซ่อมแม้แต่ครั้งเดียว เป็น 62 คน แซงหน้าพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นพรรคใหญ่ลำดับที่ 2 ในขั้วรัฐบาล
แม้จำนวน ส.ส.ยังไม่มากที่สุดในสภาปัจจุบัน แต่ด้วยกระแสที่มาแรง ผู้นำเป็นมวย รุ่มรวยทรัพยากรทางการเมือง ไม่แปลกที่พรรคการเมืองขนาดกลางนี้ถูกคาดหมายว่า จะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
อีกหนึ่งปัจจัยคือการห้ำหั่นกันเองของพรรคร่วมรัฐบาลในบางพื้นที่ เป็นการเผชิญหน้ากัน 3 ฝ่าย และทั้ง 3 ฝ่าย พร้อมทุ่มทรัพยากรเพื่อเป้าหมายเดียวกัน
ทั้งนี้ ภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.ระดับแชมป์เขตมากน้อยขนาดไหน หรือจะมีใครประกาศตัวเข้าร่วมแบบชัดเจนอีกหรือไม่ การประชุมใหญ่ของพรรควันพรุ่งนี้ คือเส้นตายที่หัวหน้าพรรค อนุทิน ชาญวีรกูล จะให้คำตอบที่ชัดเจนได้
วิเคราะห์โดย อุรชัย ศรแก้ว