ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เชื่อ "ประสิทธิ์" ซ่อนกุญแจในปากปลดเครื่องพันธนาการในศาล

อาชญากรรม
23 ธ.ค. 65
19:43
663
Logo Thai PBS
เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เชื่อ "ประสิทธิ์" ซ่อนกุญแจในปากปลดเครื่องพันธนาการในศาล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขาฯ รมว.ยุติธรรม แถลงข้อสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการหลบหนีของ "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" เชื่อขโมยกุญแจเรือนจำ ซ่อนกุญแจไว้ในปาก ก่อนนำไปปลดล็อกเครื่องพันธนาการในห้องน้ำศาล สั่งเร่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ จนท.เรือนจำ พร้อมสั่งปรับเรื่องมาตรการคุมเข้มหวั่นซ้ำรอย

วันที่ (23 ธ.ค.2565) ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เข้าตรวจสอบกล่องเก็บเครื่องมือพันธนาการผู้ต้องขังภายในเรือนจำกลางคลองเปรม พร้อมแถลงกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนและความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พยายามหลบหนี ขณะถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ควบคุมตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเบิกความที่ศาลอาญา

ก่อนออกมาเปิดเผยว่า ตรวจพบว่ากุญแจ และเข็มแทงสลัก หายไปอย่างละดอก จากปกติเข็มสลักจาก 5 ดอก และกุญแจปกติ 4 ดอก เมื่อเจ้าหน้าที่ทดลองการปลดล็อกกุญแจทั้ง 2 ประเภทราบว่าสามารถปลดล็อกได้ภายใน 20 วินาที

ส่วนตู้เก็บอุปกรณ์เครื่องพันธนาการเป็นเพียงตู้ไม้เก่าธรรมดาและจุดดังกล่าวไม่ได้มีกล้องวงจรปิดซึ่งในวันเกิดเหตุ ช่วงเวลา 06.00 น. ตัวของนายประสิทธิ์ พร้อมผู้ต้องขังอีก 2 คนต้องสวมเครื่องพันธนาการ ออกไปยังศาลอาญา และมีผู้ต้องขังอีก 3 คน ได้รับการปล่อยตัว จะเหลือเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นพัสดี 1 คน ดำเนินการเรื่องเอกสาร โดยผู้ช่วยซึ่งเป็นผู้ต้องขังชั้นดี การตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังและตรวจค้นร่างกาย ประมาณคนละ 30 นาที รวมถึงช่วยใส่เครื่องพันธนาการ อาจจะทำให้มีช่วงเวลาที่ทำให้นายประสิทธิ์ ขโมยกุญแจเอาไปได้

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ยังพบสิ่งที่ผิดสังเกต คือปกตินายประสิทธิ์จะชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เวลามารับตัว แต่วันที่เกิดเหตุนายประสิทธิ์พูดน้อยมาก แทบจะไม่คุยกับเจ้าหน้าที่เลย จึงเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะซ่อนกุญแจทั้ง 2 ดอกไว้ในปาก เพราะเป็นกุญแจดอกเล็ก อีกทั้งยังใส่หน้ากากอนามัยทับ อย่างไรก็ตามล่าสุดตำรวจตรวจยึดกุญแจที่หายไปทั้ง 2 ดอกคืนมาได้แล้ว

ส่วนของการปล่อยให้นายประสิทธิ์ ใช้ห้องน้ำสาธารณะ แทนที่จะให้ห้องน้ำใต้ถุนศาล เนื่องจากนายประสิทธิ์อ้างมีอาการท้องเสียหนัก จึงควบคุมไปใช้ห้องน้ำที่ใกล้เคียงที่สุด บริเวณชั้น 9 โดยไม่ได้เข้าไปควบคุมอย่างใกล้ชิด

แต่ขณะที่นายประสิทธิ์เปลี่ยนชุดออกจากห้องน้ำ เจ้าหน้าที่สามารถจับพิรุธได้ จึงประสานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดกั้นและควบคุมตัวได้ ที่บันไดชั้น 3 ภายในอาคาร โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปศาลในวันนั้น เป็นเจ้าหน้าที่จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่จากเรือนจำคลองเปรม จึงเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนรู้เห็น

ซึ่งขณะนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สั่งให้กรมราชทัณฑ์ สอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้นายประสิทธิ์ พยายามหลบหนีหรือไม่ โดยจะใช้เวลาภายใน 1 สัปดาห์ ในการสอบสวนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าหากตรวจสอบแล้วพบว่าหากมีเจ้าหน้าที่กระทำทุจริตก็ดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ยอมรับว่าจะนำกรณีนี้ไปแก้ไขปรับปรุงต่อไปเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

ส่วนนายประสิทธิ์ ขณะนี้ถูกนำตัวไปแยกขังที่เรือนจำบางขวาง พร้อมวางมาตรการคุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง