ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ชูวิทย์" จี้ "ผบช.น." ลาออก อ้างทำสำนวนอ่อนคดีตู้ห่าว

อาชญากรรม
25 ธ.ค. 65
16:56
479
Logo Thai PBS
"ชูวิทย์" จี้ "ผบช.น." ลาออก อ้างทำสำนวนอ่อนคดีตู้ห่าว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อ้างพบพิรุธหลายอย่างในการทำสำนวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว ของตำรวจตั้งใจทำสำนวนอ่อน จี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลาออกจากตำแหน่ง

วันนี้ (25 ธ.ค.2565) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำเอกสารบันทึกการจับกุม ในสำนวนคดีผับจินหลิง ของ นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว มาชี้ให้และอ้างว่า หลายจุดยังมีความเคลือบแคลงสงสัย โดยนายชูวิทย์ ใช้คำว่าขบวนการสมคบคิด และตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจตั้งใจสำนวนคดีอ่อน อาจจะส่งผลให้ผู้ต้องหาอย่างนายตู้ห่าวรอดจากคดี ทั้งยังพาดพิงไปถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ทำหน้าที่บกพร่อง และอยากให้ลาออกจากตำแหน่ง

จุดที่นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่าระยะเวลาในการดำเนินคดีเมื่อนับจากวันที่บุกตรวจค้นผับจินหลิง เมื่อวันที่ 26 ต.ค. จับนายตู้ห่าวได้ในวันที่ 22 พ.ย. และวันที่ 24 ธ.ค. เพิ่งจะเอาผิดเครือข่ายนายตู้ห่าวในฐานะฟอกเงิน เป็นระยะเวลาที่ไม่สมเหตุสมผล

อีกทั้งในวันที่ตรวจค้นจับกุม ตำรวจเข้าตรวจค้นในพื้นที่ไม่ครอบคลุม โดยอาคารที่มีชื่อว่า วิบวับ คาร์วอช ไม่ถูกตรวจค้นในวันดังกล่าว ทั้งที่อยู่ในเลขที่ตั้งเดียวกัน ก่อนจะขอหมายเข้าตรวจค้นอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ย. โดยใช้เวลาตรวจค้นแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งสงสัยว่าตั้งใจปล่อยให้ผู้กระทำความผิดโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน หรือสิ่งของผิดกฎหมายหรือไม่

นายชูวิทย์ ยังได้เปรียบเทียบจากจำนวนของกลางที่เข้าตรวจค้นทั้ง 2 วัน จำนวนต่างกันอย่างชัดเจน และระบุในรายงานบันทึกการตรวจค้นจับกุมว่า ไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ว่ามีคนเข้าไปเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังพบพิรุธในการลงวันที่การตรวจค้นในสำนวนไม่ตรงกับวันที่ปฏิบัติงานจริง ส่วนนี้นายชูวิทย์ จึงมองว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาลปล่อยให้การทำสำนวนมีความผิดพลาด เมื่อร่วมกับอีกหลายประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการแทรกแทรงจนพบการทุจริตในการทำหน้าที่ของตำรวจบางนาย และปล่อยให้พยานบุคคลสำคัญหลบหนี อาจจะทำให้สำนวนอ่อน จนเป็นเหตุให้นายตู้ห่าวรอดพ้นจากความผิดได้

หลังจากนี้ นายชูวิทย์ เตรียมจะเข้าพบอัยการสูงสุดเพื่อติดตามความผิดฐานฟอกเงิน และคดีนอกราชอาณาจักร พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้การทำสำนวนส่งฟ้องสมบูรณ์มากที่สุดในฐานะประชาชนทั่วไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง