วันนี้ (29 ธ.ค.2565) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้วางแผนหลบหนีขณะออกไปศาลอาญาระหว่างพิจารณาคดี
โดยฉวยโอกาสในขณะที่ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ กรมราชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดยมีผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา เป็นประธานกรรมการในการสอบหาข้อเท็จจริงนั้น
นายอายุตม์ ระบุว่า เบื้องต้นคณะกรรมการได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง พบว่า ลังไม้ที่ใช้เก็บกุญแจข้อเท้า ซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านนอกที่ทำการอาคารฝ่ายควบคุมกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม ไม่ได้มีการปิดล็อกกุญแจ
หลังจากที่มีการสวมใส่กุญแจเท้าให้กับผู้ต้องขังที่เบิกตัวไปศาลเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องขังอาศัยช่วงโอกาสในการหยิบพวงกุญแจพร้อมลูกกุญแจที่อยู่ในลังไม้ดังกล่าว ทำให้ผู้ต้องขังสามารถลักลอบนำลูกกุญแจจากพวงกุญแจ ที่ไม่ได้มีการยึดติดไว้ มาแอบซุกซ่อนในหน้ากากชนิดผ้าและออกไปศาลในวันดังกล่าว
ขณะที่นายประสิทธิ์อยู่ที่ศาล ระหว่างที่ขึ้นไปห้องพิจารณาคดีได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเข้าห้องน้ำ โดยอ้างว่าปวดท้องหนัก ระหว่างนั้นได้นัดแนะกับบุคคลภายนอกเพื่อนำเสื้อผ้าที่ใช้ในการหลบหนีมา อาศัยผนังห้องน้ำในการส่งเสื้อผ้าให้กับนายประสิทธิ์
จากนั้น นายประสิทธิ์ได้เปลี่ยนเป็นชุดลำลองและเดินออกมาจากห้องน้ำมาที่บันไดชั้น 9 ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงได้กลับไปตรวจสอบห้องน้ำอีกครั้ง ปรากฏว่าไม่พบนายประสิทธิ์แล้ว จึงมั่นใจว่านายประสิทธิ์ได้หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามเข้าจับกุมได้ที่บริเวณชั้น 3
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ พบว่า เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ในการตรวจสอบเครื่องพันธนาการ การดูแล การเก็บรักษากุญแจ รวมถึงการตรวจค้นร่างกายผู้ต้องขังก่อนออกภายนอกเรือนจำเพื่อนำไปขึ้นศาล
ทั้งนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมนายประสิทธิ์เข้าห้องน้ำในวันนั้น ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมผู้ต้องขัง เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังฉวยโอกาสในการหลบหนีไปได้
ขณะนี้กรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางส่วน ไปปฏิบัติหน้าที่ภายในส่วนกลางกรมราชทัณฑ์และย้ายออกจากเรือนจำที่ปฏิบัติงานไว้ก่อนแล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะได้ดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป