วันนี้ (30 ธ.ค. 2565) ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงแผนการทำงานของวุฒิสภาปี 2566 ก่อนที่จะครบวาระอีกปีเศษว่า จะมีสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ แต่ยังไม่ทราบว่าแต่ละพรรคจะมี ส.ส.สัดส่วนเท่าไหร่ในสภาฯ รวมถึงจะมีประธานรัฐสภามาจากพรรคใด แต่วุฒิสภาพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เพราะจากประสบการณ์ทำงานวุฒิสภา 3 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะสามารถประสานงานและเดินหน้าตรากฎหมายได้ ส่วนกฎหมายบางฉบับหากมีปัญหามากอาจจะไม่ผ่าน เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ
สำหรับบทบาทของวุฒิสภาในการติดตามความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นอำนาจตามรัฐธรรมนูญนั้น ประธานวุฒิสภา ระบุว่า มีกฎหมายปฏิรูปประเทศบางส่วนผ่านการพิจารณาไปแล้ว เช่น พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ แต่อาจยังไม่เป็นที่พอใจ ประเมินจากการพิจารณากฎหมาย ขณะที่ในวันที่ 10 - 11 ม.ค.2566 รัฐสภาจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
ชี้แจงว่าการทำหน้าที่ติดตามและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ทั้งกฎหมายและสิ่งที่ไม่ใช้กฎหมาย ยอมรับเป็นส่วนที่ยาก ได้แต่เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและซักถามถึงความคืบหน้า แต่ยืนยันที่จะเดินหน้าทำให้ประสบผลสำเร็จ แม้จะได้ไม่ครบ 100%
ประธานวุฒิสภา ระบุว่าผลงานของวุฒิสภาตลอดปี 2565 และการทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาทำได้ดี แต่อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์บ้าง สำหรับการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีฉบับเดียวเท่านั้น ซึ่งเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ที่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา ยอมรับว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกฎหมายไม่ผ่าน เนื่องจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ว่าในการโหวตจะต้องมีเสียง ส.ว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 หรือ 84 คน แต่บางครั้งก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวทั้งหมด เพราะมีร่างแก้รัฐธรรมบางฉบับที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบเลย
ประธานวุฒิสภากล่าวถึงข้อเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีว่า นับจนถึงขณะนี้ใกล้จะหมดวาระของวุฒิสภาชุดปัจจุบัน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรในการโหวตนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องรีบปิดสวิตช์ เพราะด้วยระยะเวลาอีกหนึ่งปีเศษ ถือว่าเป็นการปิดไปในตัว และไม่สามารถพูดแทนสมาชิกวุฒิสภาคนอื่นได้ว่าจะเห็นชอบด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญปิดสวิตช์ ส.ว.หรือไม่