วันนี้ (12 ม.ค.2566) กรณีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จากจ.ปัตตานี ในฐานะพยานของคดีเงินสินบน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.)
ทีมข่าวตรวจสอบความคืบหน้า เบื้องต้นพยานได้ให้การอ้างว่า เงินในซอง จำนวน 100,000 บาท ที่ปรากฏภายในห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ นั้น เป็นเงินค่าเช่าพระ และเงินทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน พร้อมกับนำรูปภาพพระบูชา เป็นหลักฐานประกอบการชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กล่าวถึงกรณีคำให้การของพยานด้วยว่า ยังไม่ได้รายงานการสอบสวน แต่ไม่ว่าจะให้การอย่างไรก็เป็นสิทธิที่จะให้การได้
พนักงานสอบสวนมีหน้าที่สอบสวนเชิงลึกและพิจารณาตามพยานหลักฐาน
ซึ่งพนักงานสอบสวน ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของเงิน ทุกทาง ทั้งเงินสด และการโอน ยืนยันตรวจสอบที่มาย้อนหลังได้ทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ ด้วยว่า ผู้ที่เข้าให้การไม่มีใครอยากยอมรับว่าเป็นการให้สินบน เพราะจะเข้าข่ายมีความผิดด้วยก็ต้องบิดเบือนเป็นเรื่องอื่นหมด ยกเว้นบางคนที่มีพยานหลักฐานชัดเจนที่เอาผิดได้ ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินได้
ขณะที่วันนี้ (12 ม.ค.) พยานปากที่ 2 จากพื้นที่พนมดงรัก อุบลราชธานี จะเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ปปป. ส่วนพยานปากแรกที่ให้การเมื่อวานที่ผ่านมา อ้างเงินในซองเป็นเงินเช่าพระ ทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน
อ่านข่าวเพิ่ม "ชัยวัฒน์" เปิดไทม์ไลน์ก่อนนัด ตร.บุกจับอธิบดีอุทยานฯ รับสินบน
"ชัยวัฒน์" โต้หลักฐานหน้า 12 แจงเงินโอน ร.5
ด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราช ธานี) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ กรณีดังกล่าวว่า ไม่เกินความคาดหมาย ที่พยานบางคนจะอ้างว่าเงินค่าเช่าพระ เพื่อเบี่ยงประเด็น เพราะทราบมาว่ามีการข่มขู่พยาน ยืนยันไม่ได้ต้องการทำให้ใครเดือดร้อน
แต่ก่อนหน้านี้ ได้นำหลักฐานเรื่องนี้มอบให้กับ บก.ปปป.ซึ่งอยู่ในหน้าที่ 12 ของเอกสาร 58 หน้าที่มอบหลักฐานไปเป็นเรื่องค่าพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 องค์ละ 15,000 บาท และรายละเอียดการโอนเงินที่ต้องโอนเข้ากองทุนสวัสดิการกรมอุทยานฯ
เงินค่าพระรูป ร.5 ต้องโอนเข้ากองทุนสวัสดิการกรมอุทยานฯ เท่า นั้น ไม่ได้นำมาให้เป็นเงินสด รับโดยตรงไม่ได้ ไม่อยากให้หลงทิศ อยากให้ทุกคนพูดความจริง
เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะตรวจดีเอ็นเอ บนซอง 21 ที่พบในห้องทำงานอธิบดีกรมอุทยานฯ นายชัยวัฒน์ กล่วว่า เห็นด้วยที่จะตรวจดีเอ็นเอบนซอง ถ้าหน่วยงานไหนไม่ได้ใความร่วมมือ เพราะตอนที่ ปปป.เข้าไปตรวจยึดมีการใส่ถุงมือ แต่จะจะชัดเจนว่ามีทั้งดีเอ็นเอของผู้รับซอง และผู้มอบซอง
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนที่พยานบางคนกลัวโดนร่างแหกับคดีรับสินบนหรือไม่ โดนอยู่แล้ว แต่ทาง บก.ปปป.จะกันเป็นพยานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงขอเตือนพี่ๆ น้องๆ ว่าไม่ควรจะบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะถ้าทุกคนพูดความจริงก็จะได้รับความเป็นธรรม
ขอให้พูดความจริง ถ้าพี่ๆน้องๆโดนข่มขู่เพื่อต้องจ่ายเงินค่ารักษาตำแหน่งเพื่อไม่ให้ถูกย้าย และเชื่อว่าความจริงทั้งหมดจะเป็นหลักฐาน และให้ความเป็นธรรม แก่ทุกคน ทุกหน่วยงานสนาม ที่ถูกบังคับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอครบ 7 วัน! ปมสินบนอุทยานฯ ให้คู่กรณีโต้แย้งรายชื่อกรรมการ
เปิดรายชื่อกรรมการสอบวินัยร้ายแรง "รัชฎา" ปมรับสินบน
"วราวุธ" ชี้ตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง ปมอธิบดีกรมอุทยานฯ รับสินบน