ผู้ประกอบการโรงสียันพร้อมร่วมโครงการรับจำนำข้าว
บางส่วนของป้ายรับซื้อข้าวเปลือกของท่าข้าวมีให้เห็นเป็นระยะบนถนนในจังหวัดภาคกลาง เจ้าของโรงสีหลายแห่งยอมรับว่าขณะนี้ได้เปิดรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยไม่จำกัดปริมาณ เฉพาะช่วงนี้ที่มีการเร่งเก็บเกี่ยวหนีน้ำท่วม บางแห่งรับซื้อถึงวันละ 300-400 ตัน เพื่อนำมาอบแห้งลดความชื้นเหลือ 15 เปอร์เซ็นต์ ก่อนนำไปเก็งกำไรจากราคาข้าวที่สูงขึ้นจากโครงการรับจำนำ
กฤษณ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ เจ้าของโรงสีศรีพัฒนาพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงสีหลายแห่งมีความพร้อมที่จะเข้าโครงการรับจำนำและอยากให้รัฐบาลกำหนดระยะเวลาแปรสภาพข้าวเปลือกให้เร็วขึ้นหรือภายใน 7 -10 วัน แล้วรีบส่งเข้าคลังกลางเพราะโรงสีไม่มีที่จัดเก็บ เนื่องจากเชื่อว่าปริมาณข้าวที่จะรับจำนำปีนี้สูงมาก และขอให้ อคส.เร่งระบายข้าวของเอกชนที่ยังค้างในสต็อค ก่อนที่จะรับข้าวล็อตใหม่จากโครงการนี้
ขณะที่ ผิน ธมรัตน์ เจ้าของโรงสีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาระบุว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการขาดแคลนกระสอบป่านบรรจุข้าวสารขนาด 100 กิโลกรัมที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้ จำเป็นต้องสั่งจากต่างประเทศ อาจส่งผลให้การดำเนินโครงการรับจำนำต้องล่าช้าออกไป ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณข้าวที่จะเข้าโครงการมากนัก
แม้โครงการรับจำนำยังไม่เริ่มดำเนินการ แต่ผู้ส่งออกข้าวบางรายให้ข้อมูลว่า ราคาข้าวขณะนี้ปรับขึ้นถึงร้อยละ 10-15 และหาซื้อยากขึ้นเนื่องจากโรงสีต่างกว้านซื้อเพื่อกักตุน และคาดว่าราคาจะขึ้นอีกร้อยละ 20-40 ภายหลังเปิดรับจำนำแล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าข้าวเริ่มชะลอการซื้อข้าวแล้ว โดยในวันพรุ่งนี้ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในจะหารือร่วมกับสมาคมโรงสีข้าวไทย องค์การคลังสินค้า และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เพื่อกำหนดรายละเอียดสำหรับรับจำนำข้าวที่จะเริ่มวันที่ 7 ตุลาคมนี้