วันนี้ (20 ม.ค.2566) คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วย COVID-19 ที่อาการรุนแรงและต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผ่านพ้นช่วงที่มีจำนวนมากที่สุดมาแล้วเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 5 ม.ค. และลดลงจากจุดดังกล่าวมาแล้ว 44.3% เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่สถิติการเข้าพบแพทย์ตามคลินิกไข้และแผนกฉุกเฉินผ่านพ้นช่วงสูงสุดแล้วเช่นกัน โดยจำนวนสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2565 และลดลงต่อเนื่อง หากตรวจสอบข้อมูลเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2566 จำนวนผู้ป่วยที่เข้าคลินิกไข้รายวันลดลงแล้วถึง 94% จากช่วงสูงสุด ส่วนสถิติการเข้ารักษาตัวในแผนกฉุกเฉินที่มากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อ 2 ม.ค. และปัจจุบันลดลงแล้วถึง 44%
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติจีน ยังระบุว่า โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ กำลังกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยแผนกผู้ป่วยนอกรับผู้ป่วยโรคอื่น ๆ รักษา และมีผู้ป่วย COVID-19 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5% เท่านั้น เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่แผนกผู้ป่วยใน มีสัดส่วนผู้ป่วยที่ไม่ใช่ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 85%
จีนคาดเดินทางช่วงเทศกาล 2,100 ล้านเที่ยว
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวของชาวจีน ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจีน ประเมินว่า การเดินทางในช่วงเทศกาลปีนี้ ระหว่างวันที่ 7 ม.ค.-15 ก.พ.2566 จะมีผู้เดินทางทั้งหมด 2,100 ล้านเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี นับตั้งแต่ COVID-19 เริ่มระบาดเมื่อกว่า 3 ปีก่อน
ขณะที่หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองจีน ระบุว่า นับตั้งแต่เปิดพรมแดนเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางเข้าหรือออกจีนประมาณ 500,000 คนต่อวัน ขณะที่วันนี้คาดว่าจะเป็นวันที่การเดินทางภายในประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นสูงสุด
ความเป็นไปได้ของการเดินทางช่วงตรุษจีน ทำให้สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แสดงความกังวลก่อนหน้านี้ถึงการระบาดที่อาจเกิดขึ้นในเขตชนบทอาจประสบปัญหา เนื่องจากสถานพยาบาลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอรับมือการระบาดรุนแรงได้
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน ระบุว่า เชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ย่อยเดลตาครอน XAY.2 หรือเชื้อที่เป็นลูกผสมของ Omicron สายพันธุ์ BA.4 หรือ BA.5 กับ Delta สายพันธุ์ AY.45 ซึ่งพบในไทยก่อนหน้านี้ ยังตรวจไม่พบในจีนและไม่น่ากังวล โดยยังย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน เช่น การสวมหน้ากาก ล้างมือ