วันนี้ (3 ก.พ.2566) นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แถลงความคืบหน้าแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้าย ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้มีการพิจารณาโยกย้ายสลับตามความเหมาะสมภายใต้คณะกรรมการกลั่นกรองแล้ว 2 พื้นที่รวม 3 ตำแหน่งคือ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กับอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง จ.ระยอง และอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่ส่วนหนึ่งมีปัญหาร้องเรียนเรื่องที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
การพิจารณาโยกย้ายตามเหมาะสม ไม่ได้ทำครั้งใหญ่ เพราะต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้มารับตำแหน่ง และต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น หากเกิดปัญหาในพื้นที่ก็จะมีคำสั่ง
รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่ได้รับความไม่เป็นธรรม นายอรรถพล เจิรญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดโอกาสให้ทำหนังสือมาถึงโดยตรง จากนั้นจัดกลุ่มเพื่อนำเข้าพิจารณากลั่นกรอง ซึ่งจะมีการประชุมกันทุกสัปดาห์ ส่วนตัวเลขจะถึง 300 คนตามที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรระบุหรือไม่ กำลังรวบรวม แต่จะพิจารณาอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และระดับหน่วยจัดการต้นน้ำ หน่วยจัดการพระราชดำริ
สำหรับพิจารณาการโยกย้าย เนื่องจากช่วงนี้ไทยเปิดประเทศ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวแล้ว จึงอาจจะต้องพิจารณาคนที่เหมาะสมในส่วนนี้ก่อน เพราะการเปิดประเทศอาจจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้พื้นที่ การบริการจัดการอุทยาน รวมทั้งการลักลอบค้าสัตว์ป่าชายแดน ปัญหาหมอกควันไฟป่า
กลุ่มอุทยานแห่งชาติ-เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะพิจารณาก่อน แต่อย่ากลัวว่ามีการจะรู้สึกว่าผิดอะไรถึงโยกย้าย และตรงนี้ต้องใช้การพิจารณาไม่ให้เกิดผลกระทบกับกรม
ปมขายตำแหน่ง-คนทำดีอย่ากังวล
เมื่อถามว่าการโยกย้ายที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับคดีการจ่ายเงินค่าตำแหน่งให้กับอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ หรือไม่ นางรุ่งนภา กล่าวว่า ทราบว่าทางคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงอธิบดี น่าจะมีการสรุปความก้าวหน้าพรุ่งนี้ (4 ก.พ.) แต่กลุ่มที่อาจจะมีส่วนเรื่องตำแหน่งก็จะพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม กรมอุทยานฯ มุ่งเน้นก้าวไปข้างหน้า แก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น เลือกคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน่งที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่อย่างมีขวัญกำลังใจ
คนที่ทำดีแล้วต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และผู้บังคับบัญชาคงไม่ให้ย้ายออกจากพื้นที่
กรณีผลสอบมีรายงานผิดวินัยร้ายแรงจริง จะให้ออกจากราชการไว้ก่อนมีการกำชับทิศทางหลังจากนี้อย่างไร นางรุ่งนภา กล่าวว่า เป็นกลไกทางกฎหมายและกรมอุทยานตั้งหลักในการพิจารณาคนให้มีคุณสมบัติได้ทำงาน
คณะผู้บริหารชุดนี้จะทำงานอย่างรวดเร็วและให้ทุกอย่างได้รับการแก้ไข