คดีฆ่ายกครัว 5 ศพ ชาวม้งที่จ.ตาก วันนี้ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐาน และพยานแวดล้อมในคดี เบื้องต้นมีการเชิญชาวบ้านและคนใกล้ชิดหลายคนเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจ
วันนี้ (9 ก.พ.2566) พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับผู้ใหญ่บ้านศรีคีรีรักษ์ เพื่อหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และแรงจูงใจในคดี พร้อมเรียกชาวบ้านแต่ละคนมาสอบปากคำ
จุดแรกที่ลงไป 2 หลังแรกของญาติที่อยู่ติดกัน ที่เป็นญาติของผู้ตายที่เป็นภรรยา แต่ก็ไม่พบใคร
จุดที่สองคือบ้านของคนในหมู่บ้านที่ช่วยไปทำสวน ซึ่งภรรยาของเพื่อนบ้านก็มาให้ปากคำกับตำรวจ
ส่วนจุดที่ 3 ที่เป็นบ้านของแม่ และพ่อภรรยาที่ตาย วันนี้ก็ไม่มีใครอยู่บ้าน ซึ่งปกติบ้านหลังนี้ ผู้ตาย สามี และลูก 3 คนจะมาพักเป็นระยะหากมาทำไร่ใกล้หมู่บ้าน
ระหว่างลงพื้นที่ พล.ต.ต.ปกปภพ ยังได้พบกับ นายเจษฎา ซึ่งเป็นน้องชายของผู้ตาย คือ นายเชาว์ ที่เป็นพี่ชายคนโต
โดยนายเจษฎา พูดคุยกับตำรวจ ประเด็นสำคัญ คือรถกระบะที่ผู้ตายมักจะมายืมกับนายเจษฎา ซึ่งในวันที่นายเชาว์ เสียชีวิตก็อยู่ข้างรถยนต์ ส่วนภรรยา และลูก 3 คนเสียชีวิตอยู่ริมลำธาร
ปกติพี่ชายเขาจะขับรถอีแต๋นขึ้นไป แต่เขายืมรถผมไป แต่ตอนนี้ไม่รู้รถอีแต๋นอยูไหน
สอบคนใกล้ชิด-น้องชาย
หลังจากนั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้เดินทางไปที่บ้านผาผึ้ง บ้านของผู้ตายที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งในบ้านก็มีการเตรียมสถานที่สำหรับจัดงานศพเสื้อผ้า ข้าวของต่างๆ ถูกนำออกมานอกบ้าน
เพื่อนบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านบอกว่า ผู้ตายและครอบครัวเดินทางไปทำไร่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 07.00 น.ซึ่งไม่น่าจะไม่ค้างคืน และหลังจากนั้นก็ไม่มีคนพบเห็นอีก
2-3 วันเจอเขาไปขุดมัน และก่อนหน้าก็ไปไร่ข้าวโพด เจอเขาไปคนเดียว
ตั้งปมขัดแย้งลูกจ้าง 3 คนหายตัว
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ระบุว่าคดีได้มีการเรียกชาวบ้านในพื้นที่มาให้ปากคำหลายคน ซึ่งสถานีตำรวจภูธรวังเจ้า ได้มีการสอบน้องชายของผู้ตายโดยเฉพาะนายนพดล น้องชายคนที่ 2 ของนายเชาว์ ซึ่งใช้เวลาสอบอยู่หลายชั่วโมงตอนนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ
ผู้คับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เผยแนวทางการสืบสวน มุ่งไปที่กลุ่มแรงงานชาวเมียนมา 3 คน ที่เป็นลูกจ้างผู้เสียชีวิต มีนายเก้า ชาวเมียนมา เป็นหัวหน้าคนงาน โดยหลังเกิดเหตุ พบรถของผู้เสียชีวิต ถูกขับจากจุดเกิดเหตุ ไปจอดที่บ้านแม่ละเมา อ.พบพระ จ.ตาก ตำรวจยังอยู่ระหว่างติดตาม 3 คนนี้ มาสอบปากคำ
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบว่าผู้เสียชีวิตเคยดุด่าว่ากล่าวกลุ่มลูกจ้าง ด้วยถ้อยคำรุนแรง และเคยนำอาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. ที่พกติดตัวประจำ มาข่มขู่ลูกจ้างด้วย หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จ ก็ไม่อนุญาตให้ลูกจ้างกลับบ้าน
แต่ข้อมูลนี้ ยังสวนทางกับปากคำของเพื่อนบ้านบางคน ที่บอกว่า นายเชาวน์เป็นคนใจดี ทำงานสุจริต ไม่ทะเลาะกับใคร ตำรวจจึงต้องสอบสวนต่อว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ ส่วนพ่อผู้เสียชีวิตยังไม่สงสัยใคร
ตำรวจให้น้ำหนักประเด็นแรงงาน มากกว่าข้อสงสัยเดิม เรื่องความขัดแย้งในครอบครัว และจะทยอยเรียกบุคคลต่างๆที่ลงพื้นที่วันนี้ มาสอบปากคำเพิ่มเติม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง