หนังสือรับการเกิดที่ออกโดยโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2542 เป็นหลักฐานที่ น.ส.วิราภรณ์ แผนสูงเนิน อายุ 24 ปี ชาวบ้านสร้างแก้ว ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นำไปยื่นเพื่อขอสัญชาติไทยกับนายทะเบียนประจำอำเภอเมื่อ 2 ปี แต่จนถึงปัจจุบันการตรวจสอบพิสูจน์สัญชาติยังไม่มีความคืบหน้า
วันนี้ (13 ก.พ.2566) น.ส.วิราภรณ์ เปิดเผยว่าเธอคลอด ขณะพ่อและแม่ซึ่งเป็นคนไทย ไปรับจ้างทำงานในสวนผลไม้ที่อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แต่ไม่แจ้งเกิดในพื้นที่
ก่อนจะกลับมายังภูมิลำเนาเมื่ออายุ 3 ขวบ จากนั้นพ่อแม่พาไปแจ้งเกิดที่ อ.พิบูลมังสาหาร แต่นายทะเบียนไม่รับแจ้ง โดยอ้างว่า ไม่มีเอกสารยืนยันความเป็นคนไทย ทำให้เรียนหนังสือได้ถึง ป.6 เท่านั้น เมื่อเริ่มโตก็ไม่กล้าเดินทางไปไหน เพราะไม่มีบัตรประชาชน
เมื่อแต่งงานมีลูก ก็เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาลต่างๆ ของรัฐเหมือนคนทั่วไป รวมทั้งวัคซีนโควิด-19 จึงต้องการเข้าสู่การพิสูจน์สัญชาติ เพราะทั้งพ่อและเป็นคนไทยและยังมีชีวิตอยู่ เอกสารรับรองการเกิดก็ระบุชัดเจนจึงอยากให้หน่วยงานรัฐให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการพิสูจน์ดีเอ็นเอ
กรณีนี้ผู้ขอสัญชาติไทยรายนี้อ้างว่า ยื่นเรื่องไปเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ไม่มีความคืบหน้า เมื่อไปสอบถามก็จะได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างส่งหนังสือรับรองการเกิดไปตรวจสอบที่ รพ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และยังไม่ตอบกลับมา