วันนี้ 14 ก.พ.2566 ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เผยภาพรวมปริมาณ PM 2.5 เวลา 07.00 น ในประเทศไทย พบเกินค่ามาตรฐานในกรุงเทพฯ, จ.เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, แม่ฮ่องสอน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, ตาก, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, หนองคาย, เลย, อุดรธานี, นครพนม, หนองบัวลำภู, สกลนคร, มุกดาหาร, ขอนแก่น, ชัยภูมิ และ อุบลราชธานี
รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ สรุปดังนี้
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 30-195 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 38-112 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 13-35 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11-38 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10-21 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 12-61 มคก./ลบ.ม.
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
นอกจากนี้ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ยังรายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 15-21 ก.พ.2566 ดังนี้
วันที่ 15 ก.พ. 66 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรง ช่วยพัดพาฝุ่นละอองออกจากพื้นที่ แต่หลังวันที่ 17 ก.พ. 66 ไป อาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะวันที่ 18 ก.พ. พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 15-19 ก.พ. 2566