ประชาชนในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศนิวซีแลนด์เผชิญฝนตกหนักและลมกระโชกแรง จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังสูงเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งส่งผลให้ถนนหลายสายถูกตัดขาดและเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องถูกยกเลิก
อิทธิพลของพายุไซโคลนทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ขณะที่ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังสูงจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้
ขณะที่พายุแกเบรียลได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของโอ๊คแลนด์ ใกล้ชายฝั่งตะวันออกของเกาะเหนือ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวขนานไปกับชายฝั่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้
ด้านเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและลมกระโชกแรงทำให้ต้นไม้หักโค่นในอีกหลายจุด
รวมทั้งระดับน้ำในแม่น้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ขณะที่ทางการยังคงร้องขอให้ประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยเพิ่มเติม หลังจากมีคำสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงไปก่อนหน้านี้
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุ ยังทำให้ประชาชนอีกราว 2,500,000 คนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ และประชาชนอีกราว 35,000 คนได้รับผลกระทบหลังจากเที่ยวบินมากกว่า 600 เที่ยวต้องยกเลิกไปก่อน
ขณะที่ Air New Zealand กลับมาให้บริการเที่ยวบินเข้าและออกจากโอ๊คแลนด์อีกครั้ง แม้ว่าหลายเส้นทางยังคงระงับอยู่
นอกจากนี้ เส้นทางการจราจรที่ได้รับความเสียหายทำให้บางเมืองถูกตัดขาด ขณะที่เครือข่ายโทรศัพท์มือถือก็ใช้งานไม่ได้เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ร้องขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยประหยัดน้ำและอาหาร เพราะกลัวว่าอาจเกิดการขาดแคลนได้
รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศไปเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.66) ขณะที่คริส ฮิปกินส์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระบุว่า ความรุนแรงและขอบเขตความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินว่า มีผู้พลัดถิ่นหรือผู้ได้รับบาดเจ็บกี่คน และยังคงไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ออสเตรเลียและอังกฤษเสนอส่งมอบความช่วยเหลือมายังนิวซีแลนด์แล้ว
ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า ประชาชนราว 2,500 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลังจากบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากพายุ และคาดว่าตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยล่าสุด พายุลูกนี้พัดออกจากนิวซีแลนด์แล้ว
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อรับมือกับพายุลูกนี้ ถือเป็นการประกาศครั้งที่ 3 ของประเทศ โดยครั้งแรกประกาศในปี 2011 จากเหตุแผ่นดินไหว และครั้งที่ 2 ประกาศในปี 2020 จากการแพร่ระบาดของโควิด-19