ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คดีไม่คืบ! รถชนลูกชายป่วยติดเตียง 6 เดือน คู่กรณีเมินรับผิดชอบ

อาชญากรรม
22 ก.พ. 66
11:25
434
Logo Thai PBS
คดีไม่คืบ! รถชนลูกชายป่วยติดเตียง 6 เดือน คู่กรณีเมินรับผิดชอบ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
พ่อ-แม่ ร้องตำรวจนครบาล ช่วยตามคดีลูกชายอายุ 18 ปีประสบอุบัติเหตุสาหัส ต้องกู้เงินรักษาหลายแสนต้องนอนโรงพยาบาล 4 เดือนอาการยังไม่ดีขึ้น หลังรถคู่กรณีเลี้ยวกะทันหันจนพุ่งชน แต่คดีไม่คืบ

วันนี้ (22 ก.พ.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อและแม่ ของนายอรมเทพ ครุฑบางยาง อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นปวช.ปี 3 แห่งหนึ่ง พร้อมประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

หลังลูกชายประสบอุบัติเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ บริเวณหน้าโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร หนองจอก ทำให้สมองกระทบกระเทือน และเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

นางทับทิม แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกขี่จักรยายนต์ไปฝึกงานที่อู่ซ่อมรถ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ มีรถบรรทุกขับนำหน้าอยู่ในช่องเดินที่ 2 ส่วนลูกชาย ขี่ตามหลัง เมื่อถึงจุดกลับรถ รถบรรทุกได้เลี้ยวกะทันหัน โดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว รถลูกชาย จึงพุ่งชนท้ายรถบรรทุกด้านซ้ายทันที เหตุเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2565

วอนคู่กรณีรับผิดชอบ-ครอบตรัวกู้เงินรักษา

หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สน.ลำผักชี พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกคู่กรณีมาสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด พยายามสอบถามให้ช่วยตรวจสอบหาหลักฐาน ตำรวจกลับอ้างว่าอยู่ไกล รวมทั้งตัวเองต้องไปหาหลักฐานภาพวงจรปิดเหตุการณ์ จากสำนักงานเขตด้วยตัวเอง ติดใจการทำงานของตำรวจ ที่ดำเนินการล่าช้า จึงร้องขอความเป็นธรรม

นายอมรเทพ ครุฑบางยาง บอกว่า ตอนนี้ลูกชายไม่สามารถพูดสื่อสารได้ สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง กระโหลกศีรษะแตก ปอดฟกซ้ำทั้ง 2 ข้าง ผ่าตัดสมองมาแล้ว 2 ครั้ง ต้องพักอยู่ห้องไอซียู

ลูกรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 4 เดือน และมาพักฟื้นต่อที่บ้าน แม่ต้องลาออกจากงานประจำมาดูแล เนื่องจากต้องเจาะคอ ให้อาการทางสายยาง อยากให้คู่กรณีรับผิดชอบ เพราะต้องกู้เงินเพื่อนำมาใช้รักษาลูกชาย หลายแสนบาท

โดยมีตำรวจเป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ เพื่อนำไปดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานตำรวจ สน.ลำผักชี ที่รับผิดชอบคดี มาให้ข้อมูล และเรียกคู่กรณีมาสอบสวนให้เกิดความชัดเจน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง