วันนี้ (12 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้หากเปิดแอปพลิเคชั่น AIR4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ จะพบว่า ภาคเหนือ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้มถึงสีแดง หรือ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นมากที่สุดคือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน วัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ได้ 178 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 164 และอ.เมืองสุโขทัย 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ดัชนีชี้วัดผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 มีมากน้อยแค่ไหน อาจจะสะท้อนได้จากตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เช่นที่ จ.เชียงใหม่ ข้อมูลจากกลุ่มอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า
จำนวนผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศช่วงวันที่ 1 ก.พ.ถึงวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยกลุ่มโรคทางเดินหายใจ กลุ่มโรคหัวใจ หลอดเลือดกลุ่มตาอักเสบ กลุ่มผิวหนังอักเสบ และกลุ่มอื่น ๆ รวม 9,234 คน
ขณะที่ GISTDA เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมฮิมาวาริ เวลา 09.00 น.วันนี้ว่า พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยจังหวัดที่มีค่า PM2.5 สูงสุดอยู่แม่ฮ่องสอน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ในขณะที่ กทม. ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดีจนถึงปานกลาง แต่จะมีบางพื้นที่ที่เกินมาตรฐานโดยเฉพาะเขตบางขุนเทียน สาทร บางซื่อ บึงกุ่ม บางนา จตุจักร เป็นต้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ แนะ 6 ข้อปฏิบัติรับมือช่วงวิกฤตฝุ่น
กรุงเทพฯ ค่าฝุ่น PM2.5 "สีส้ม" เกินมาตรฐาน 43 จุด
ฝุ่นเหนือยังหนัก PM2.5 เกินเกณฑ์ 16 จว. สูงสุดที่ "แม่ฮ่องสอน"