วันนี้ (16 มี.ค.2566) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และทีมพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อตรวจสอบผลชันสูตรศพของ พ.ต.ท.กิตติกานต์ แสงบุญ หลังเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 มี.ค.)
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบศพเบื้องต้น "สารวัตรกานต์" ถูกยิง 6 นัด กระสุนทะลุผ่านตัวทุกนัด จึงทำให้มีภาวะเสียเลือดมาก และจุดสำคัญที่ทำให้เลือดออกในช่องท้องอย่างหนักและสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต คือกระสุนที่ผ่านทะลุใต้ราวนมใกล้ปอด
ขณะที่ผลการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบสารเสพติดในกลุ่มกัญชา แต่ยังต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์อย่างเป็นทางการจากแพทย์นิติเวช
ยืนยันยิงปะทะ ไม่ใช่เจตนาปลิดชีพ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่มีใครต้องการให้เกิดความสูญเสีย แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ประเมินยกระดับปฏิบัติการโดยมีผลการวิเคราะห์อาการตอบสนองของสารวัตรกานต์ จากแพทย์สนาม เป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์ประเมินปรับแผนงานเป็นสำคัญ เริ่มจากเจราจา แก๊สน้ำตา กระสุนยาง รวมถึงกระสุนจริงที่เป็นตัวเลือกสุดท้าย ซึ่งเป็นการยิงปะทะกัน ไม่ใช่การเจตนาใช้กำลังจากฝ่ายชุดปฏิบัติการ
ส่วนสาเหตุที่สารวัตรกานต์ก่อเหตุนั้น ยังคงยืนยันว่าประเด็นหลักคือเป็นเพราะอาการป่วยทางจิตเวช ไม่มีสติสัมปชัญญะควบคุมความรู้สึกนึกคิดของตัวเองได้ ประเด็นต่อมา คือความเครียดเรื่องการงาน และในวันเกิดเหตุทราบว่าจะมีทีมแพทย์เข้าไปรับตัวไปรักษาพยาบาล จึงขาดสติ
รอง ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงการดูแลสวัสดิการของสารวัตรกานต์ ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบสวัสดิการตามเหมาะสม ไม่ทอดทิ้งหรือซ้ำเติม ผู้สูญเสีย ซึ่งสารวัตรกานต์เป็นตำรวจมานานและตลอดการรับราชการก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี จนกระทั่งประสบปัญหาสุขภาพ
สำหรับคดีความที่จะเกิดขึ้นกับชุดปฏิบัติการ เป็นไปตามระเบียบที่ทั้งหมดจะต้องถูกสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฎิบัติภารกิจ โดยสำนวนคดีจะอยู่ในความรับผิดชอบของท้องที่ สน.สายไหม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"สารวัตรกานต์" ก่อเหตุยิงย่านสายไหม เสียชีวิต
ตร.ชี้แจงปฏิบัติการจู่โจม "สารวัตร" จำเป็น-ไม่อยากสูญเสีย
ผบ.ตร.รับใช้กระสุนจริง หลัง "สารวัตรกานต์" ยิงตอบโต้ ปัดเครียดงาน