วันนี้ (20 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศซื้อขายหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน โดยปรับลงทันทีที่มีข่าวยุบสภา ดัชนีปิดตลาดที่ 1,555.45 จุด ลดลง 8.22 จุด คิดเป็นมูลค่าซื้อขายกว่า 62,000 ล้านบาท โดยเป็นแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศถึง 3,400 ล้านบาท
นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ตอบรับข่าวการประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทั้งที่ในสถานการณ์ปกติ ตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ถูกกดดันจากกรณีวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ทำใช้นักลงทุนชะลอการลงทุน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลปัญหาการจัดการเลือกตั้งอาจไม่ราบรื่น หลังมีผู้ร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ขณะเดียวกันหากจัดการเลือกตั้งได้ แต่การจัดตั้งรัฐบาลพรรคผสมก็อาจมีปัญหา ส่งผลให้บรรยากาศตลาดหุ้นไทยไม่ตอบรับข่าวการยุบสภาเหมือนในอดีต
ขณะที่นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ประเมินว่า ปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งอาจกระทบกำหนดการเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากเดิม แต่คงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงเชื่อว่าหากสถานการณ์วิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรปคลี่คลาย อาจช่วยให้บรรยากาศซื้อขายหุ้นไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักลงทุนรับรู้ข่าวการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่มาโดยตลอด แต่กังวลว่าในช่วงรัฐบาลรักษาการและสุญญากาศทางการเมือง จะกระทบการดูแลเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
รศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า การเลือกตั้งใหม่รอบนี้จะมีการแข่งขันกันสูง ส่งผลให้ช่วงหาเสียงเกิดเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่นๆ
โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
กกต.นัดถก 21 มี.ค. เคาะวันเลือกตั้ง เข้าพบ "วิษณุ" แจง ม.169
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ "ส.ส.- ส.ว. - ขรก.การเมือง" ช่วยหาเสียงท้องถิ่นได้