จัดเสวนาแก้ปัญหาคนเร่ร่อนสนามหลวง

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงแนวคิดการดำเนินการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนบริเวณท้องสนามหลวง โดยระบุว่า นอกจากกรุงเทพมหานครจะมีโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคารประปาแม้นศรีให้เป็นที่พักชั่วคราวของคนเร่ร่อน ซึ่งตามโครงการนั้นจะจัดให้เป็นที่พักแบบครบวงจร รองรับคนได้ไม่ต่ำกว่า 100 คน รวมถึงการจัดบ้านพักพิงให้การช่วยเหลือ คือบ้านมิตรไมตรีและบ้านอุ่นใจไว้รองรับแล้ว แต่เห็นว่า หากดำเนินการโครงการนี้เพียงเรื่องเดียว ก็อาจทำให้คนเร่ร่อนกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิม เพราะคนกลุ่มนี้รักอิสระ และไม่ชอบอยู่เป็นหลักแหล่ง รวมถึงปัญหาหลักที่ต้องกลับมาเป็นคนเร่ร่อน เพราะไม่มีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้

 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดเผยด้วยว่า ได้หารือกับพระพิศาลธรรมพาที หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงแนวทางการแก้ปัญหา โดยเบื้องต้นได้มีการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือคนเร่ร่อน รับบริจาคเงินผ่านธนาคารกรุงไทย โดยตั้งเป้าว่าจะได้รับเงินบริจาค 10 ล้านบาท ก่อนวันที่ 5 ธ.ค.นี้ เพื่อนำเงินมอบให้กับมูลนิธิวัดสวนแก้วนำไปช่วยเหลือจัดการด้านอาชีพและที่พัก ซึ่งหากคนเร่ร่อนและคนไร้บ้านเข้าร่วมโครงการก็จะมีงานทำ ได้ฝึกอาชีพ และมีที่พักอยู่ในวัดสวนแก้ว ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ถึง 9 แห่งทั่วประเทศ ทั้งที่จังหวัดนนทบุรี, จังหวัดปราจีนบุรี, จังหวัดจันทบุรี, จังหวัดระยอง, จังหวัดตาก, จังหวัดกาญจนบุรี, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนในระยะยาว

 

สำหรับแนวคิดนี้ กรุงเทพมหานครจะนำเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณา ส่วนการแก้ปัญหาเร่งด่วนเบื้องต้น จะจัดให้มีการเสวนาระดมความคิดและรับฟังความเห็นของทุกหน่วยงาน ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนและคนไร้บ้าน แต่จะรับฟังความเห็นของผู้ค้า ซึ่งกรุงเทพมหานครมีโครงการจะเปิดให้ลงทะเบียนค้าขายบริเวณคลองหลอดเป็นจุดท่องเที่ยวค้าขายแห่งใหม่ รวมถึงรับฟังแนวทางและข้อเสนอการแก้ปัญหาการค้าประเวณีบริเวณโดยรอบสนามหลวง ที่รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยอมรับว่า เป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เพราะแม้ตำรวจจะกวดขันจับกุม แต่กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะย้อนกลับมาขายบริการบริเวณนี้อีก