ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

บันทึกโลก "ฆาตกรหญิง-ยาพิษ-ทรัพย์สิน"

สังคม
28 เม.ย. 66
13:59
2,769
Logo Thai PBS
บันทึกโลก "ฆาตกรหญิง-ยาพิษ-ทรัพย์สิน"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"แอม" อาจจะกำลังได้ชื่อว่าเป็น ผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ "ไซยาไนด์" สังหารคนมากที่สุดติดอันดับโลก แต่ในอดีต เกิดฆาตกรรมต่อเนื่องที่ใช้ ไซยาไนด์ ด้วยฝีมือหญิงญี่ปุ่นและหญิงอินเดียมาแล้ว

"ไซยาไนด์ มัลลิกา" ผู้ตั้งตนเป็นผู้ประกอบพิธีกรรมดับทุกข์

เค.ดี.เคมปามมะ เธอเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง แต่งงานกับช่างตัดเสื้อ และรับจ้างเป็นแม่บ้านทำความสะอาด หลังจากแต่งงาน เธอก่อตั้งกองทุนรวบรวมเงินบริจาค แต่นำเงินทั้งหมดมาใช้ส่วนตัว ทำให้สามีไล่เธอ ออกจากบ้านในปี 2541 และนี่คือจุดเริ่มต้นของ "ไซยาไนด์ มัลลิกา"

ในช่วงปี 2542-2550 เคมปามมะ วางยาพิษสังหารผู้หญิง 6 คน ซึ่ง 5 คนหลังเกิดเหตุในเวลาเพียง 3 เดือน ทำให้เธอถูกสื่อตั้งฉายาให้ว่า "ไซยาไนด์ มัลลิกา" ฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกของอินเดีย ด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ ข่าวเรื่องฆาตกรที่เป็นเพศหญิง และก่อเหตุต่อเนื่อง จึงสร้างความตกตะลึงให้กับสังคมและเจ้าหน้าที่ตำรวจในอินเดียเป็นอย่างมาก

ตรวจพบ "สารไซยาไนด์" คอนโซลรถ "แอม"

สื่อของอินเดียในขณะนั้น รายงานว่าพฤติการณ์ของ เคมปามมะ จะสังเกตผู้หญิงที่เดินทางมาวัด สวดภาวนาให้พ้นทุกข์ในเรื่องต่างๆ เธอจะเข้าไปตีสนิท โกหกว่าจะทำให้พวกเขาพ้นทุกข์ ด้วยพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีแล้ว เธอจะยื่นแก้วน้ำผสมไซยาไนด์ให้ดื่มจนพวกเขาเสียชีวิต แล้วจึงค่อยชิงทรัพย์ไป

ผู้เสียชีวิตรายแรกเกิดขึ้นในปี 2542 จากนั้น เคมปามมะ ทิ้งช่วงไปนานหลายปี แล้วจึงก่อเหตุซ้ำอีกครั้งในปี 2550 ซึ่งครั้งนั้น เธอใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนสังหารผู้หญิงไป 5 คน เคมปามมะถูกจับกุมในปีถัดมา ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2555 แต่ได้รับการลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตที่เรือนจำ

สำหรับ ฉายา "มัลลิกา" นั้น มาจากชื่อผู้เสียชีวิตคนสุดท้ายที่เธอยื่นน้ำดื่มผสมไซยาไนด์ ด้วยคำหลอกลวงว่าจะทำให้เขาพ้นทุกข์

"แม่ม่ายดำ" คาเคฮิ วางยาหวังเงินประกัน

"จิซาโกะ คาเคฮิ" หญิงญี่ปุ่นวัย 76 ปี ให้การรับสารภาพต่อศาล ถึงเหตุฆาตกรรมอดีตสามี 3 คน ที่ทำให้เธอได้รับเงินประกันจากการจากไปของชายเหล่านั้นร่วม 1,000 ล้านเยน หรือราว 250 ล้านบาท

"ไม่เคยได้เงินใช้เลย" คือมูลเหตุที่ทำให้ คาเคฮิ ผสมไซยาไนด์ที่ซื้อต่อจากเพื่อนลงในอาหารแล้วให้อดีตสามีทั้ง 3 กิน

แพทย์ชันสูตรศพ พบร่องรอยของไซยาไนด์ตกค้างในร่างกายของอดีตสามีคนล่าสุด จึงขยายผลย้อนกลับไปดูอดีตสามีอีกทั้ง 2 คนของเธอ ก็พบว่าพวกเขาถูกวางยาพิษด้วยไซยาไนด์เช่นกัน ตำรวจจับกุมเธอในปี 2557 และตั้งข้อกล่าวหา "วางแผนฆาตกรรม" มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 คนในเวลา 6 ปี

แจ้งข้อหาเพิ่ม "แอมไซยาไนด์" คดีสารวัตรปู พบโยงอีก 2 ยอดพุ่ง 13 คน

แม้ คาเคฮิ ปฏิเสธส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องดังกล่าว และกล่าวว่า "มันคือเรื่องของโชคชะตา ถ้าใครคิดว่าฉันคือฆาตกร ขอยอมกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่า" ส่วนทนายของเธอก็ยืนยันว่าลูกความของเธอ "เป็นโรคอัลไซเมอร์ จำอะไรไม่ได้"

แต่ศาลตัดสินให้เธอรับโทษประหารชีวิต แม้เธอทำเรื่องอุทธรณ์โทษประหารฯ แต่ศาลสูงสุดก็ยกคำร้องของเธอในกลางปี 2564 ทำให้ตอนนี้ คาเคฮิ แม่ม่ายดำ ต้องติดใยแมงมุมตัวเองรอโทษประหารฯ ภายในเรือนจำของญี่ปุ่น

"แม่ม่ายดำ" ฉายาที่สื่อตั้งให้ คาเคฮิ เหมือนกับแมงมุมแม่ม่ายดำที่สังหารคู่ของมันหลังผสมพันธุ์

ที่มา : BBC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง