ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลือกตั้ง2566 : กกต.ห้ามเผยผลโพลเกี่ยวกับเลือกตั้ง ตั้งแต่ 7 พ.ค. - 14 พ.ค.

การเมือง
5 พ.ค. 66
13:01
2,170
Logo Thai PBS
เลือกตั้ง2566 : กกต.ห้ามเผยผลโพลเกี่ยวกับเลือกตั้ง ตั้งแต่ 7 พ.ค. - 14 พ.ค.
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กกต.เปิดกฎเกล็กห้ามทำในวันเลือกตั้ง ทั้งซื้อจำหน่าย จ่าย แจกสุรา พร้อมห้ามเผยแพร่ผลโพลเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. - 14 พ.ค.เวลา 17.00 น.

นนี้ (5 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 14 พ.ค. และวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค.2566 เกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ดังนี้

1.ห้ามผู้ใดขาย จำหน่าย แจกจ่าย หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พ.ค.2566 จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยบทบัญญัตินี้ใช้บังคับกับวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย

2.ห้ามผู้ใดเล่นหรือจัดให้เล่นการพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้เล่น 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้จัดให้มีการเล่น

3.ห้ามผู้ใดเปิดเผย หรือ เผยแพร่ผลสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนการเลือกตั้งในระหว่าง 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง จนถึงเวลาปิดการลงคะแนนการเลือกตั้ง (ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2566 ถึงวันที่ 14 พ.ค.2566  เวลา 17.00 น.) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.ห้ามมิให้ผู้สมัครผู้ใดจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งหรือนำกลับไปจากที่เลือกตั้ง หรือจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับเพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารยานพาหนะหรือค่าจ้างซึ่งต้องเสียตามปกติ

ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง เพื่อจูงใจหรือควบคุมให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี บทบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่การที่หน่วยงานของรัฐจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง  

5.ห้ามผู้ใดดำเนินการหรือยินยอมให้มีการย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้านของตนเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ส่วนความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนน คือ 1.ห้ามผู้ใดกระทำการเพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิได้ หรือ ขัดขวาง หรือ หน่วงเหนี่ยว ไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือไม่ให้ไปถึง ณ ที่เลือกตั้งภายในเวลาที่จะออกเสียงลงคะแนนมีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

2.ห้ามผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้ว หรือแสดงบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนไว้แล้วให้ผู้อื่นทราบว่า ได้ลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด มีโทษจำคุกไม่เกิน1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกพอสมควรต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้าง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนน มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000 – 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

ขณะที่ความผิดเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง ส.ส.มีดังนี้ 1. ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง หรือจงใจการทำเครื่องหมายเพื่อเป็นที่สังเกตไว้ที่บัตรเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

2.ผู้ใดจงใจทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือทำบัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง