วันนี้ (22 พ.ค.2566) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุถึงการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ ว่า เป็นการประชุมนัดแรกหลังการเลือกตั้ง เนื่องจากมี ส.ส.ใหม่ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วย ซึ่งหัวหน้าพรรคน่าจะให้ข้อแนะนำการทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่ดี ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมือง และน่าจะหารือในเรื่องของพรรคอยู่บ้าง เพราะที่ผ่านมาระบบของพรรคดีอยู่แล้ว แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ก็ต้องวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของพรรค ซึ่งต่อไปจะต้องมุ่งเน้นคนทุกรุ่น ทุกช่วงวัย และการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
ส่วนจะถึงขั้นรีแบรนด์พรรคหรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่มองว่าการรีแบรนด์ไม่ได้หมายความว่าที่ผ่านมาไม่ดี เพราะทุกพรรคมีการพัฒนาปรับปรุงมาโดยตลอด และพรรคการเมืองจะต้องดีที่สุดสำหรับประชาชน พร้อมย้ำว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้มีปัญหาในการทำงานตั้งแต่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค ซึ่งทุกคนช่วยกันทำงาน ทุกเรื่องสามารถพูดคุยกันได้ และให้เกียรติกัน
ทั้งนี้ ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะวางมือทางการเมืองหรือไม่ แต่ทุกคนในพรรคให้เกียรตินายกรัฐมนตรี และโดยส่วนตัวเหตุผลที่มาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจ
นายธนกร เชื่อว่า ยังไม่ถึงขั้นที่จะมี ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติบางคนเตรียมย้ายออกจากพรรค หาก พล.อ.ประยุทธ์ วางมือทางการเมือง เพราะเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้ง และภายในพรรคก็ไม่มีปัญหา จึงเชื่อว่าพรรคไปต่อได้ และคงไม่มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคด้วย
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ มองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและยังมีเวลา แต่สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ เรื่องของการชุมนุมกดดันการทำหน้าที่ของ ส.ว. เพราะทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้น ไม่ควรจะมีการเคลื่อนไหว หากเคารพแนวทางประชาธิปไตยก็ควรพูดจากันด้วยเหตุผล
ขณะเดียวกันอย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่า จะเกิดความวุ่นวายหากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พร้อมฝากรัฐบาลใหม่ควรสานต่อสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำไว้ ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมาประชาชนมีความสุข นโยบายหลายอย่างเป็นประโยชน์ และสร้างความเจริญให้กับประเทศ ดังนั้นจึงไม่ควรทำให้เกิดความขัดแย้งใด ๆ
ส่วนความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม วันนี้ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลมาทำงานตามปกติในเวลาประมาณ 09.00 น. และเป็นประธานในพิธีส่งมอบความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จากผลกระทบพายุไซโคลนโมคา (Mocha)