วันนี้ (16 มิ.ย.2566) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวเกี่ยวกับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ทำให้เกิดข้อสงสัยจากสาธารณชนหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นการนำส่งงบการเงินตามแบบ ส.บช.3 และรายละเอียดด้านอื่น ๆ
ITV แจง! บันทึกการประชุม ไม่ได้สื่อสาร "ยังประกอบกิจการสื่อ"
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้รวบรวมประเด็นที่เป็นข้อสงสัยหลักของสาธารณชน 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การนำส่งงบการเงินตามแบบ ส.บช.3 2.สถานะของ บมจ.ไอทีวี และ 3.รายงานการประชุมของบริษัทฯ กรมฯ ขอชี้แจงตามประเด็นดังกล่าว ดังนี้
1.การนำส่งงบการเงินตามแบบ ส.บช.3 การจัดทำและการส่งงบการเงินของนิติบุคคลนั้น เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 ที่ได้กำหนดผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ตามมาตรา 8 ต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินดังกล่าวต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นสำนักงานกลางบัญชี ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยการยื่นงบการเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด
สำหรับวิธีการและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการนำส่งงบการเงิน จะอยู่ในประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่องแนวทางปฏิบัติในการยื่นงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น พ.ศ.2565 โดยนิติบุคคลที่มีหน้าที่นำส่งงบการเงิน ต้องทำการกรอกข้อมูลในแบบนำส่งงบการเงิน (แบบ ส.บช.3)
ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลเพื่อประกอบการนำส่งงบการเงิน เช่น รอบปีงบการเงินที่นำส่ง รายละเอียดของกิจการ ชื่อ ที่ตั้ง ข้อมูลผู้ทำบัญชี ข้อมูลผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (ถ้ามี) ประเภทธุรกิจสินค้า/บริการและรหัส
การนำส่งงบการเงินให้กับกรมฯ เป็นการแสดงถึงผลประกอบการและสถานะทางการเงินของนิติบุคคล เพื่อให้สาธารณชนและผู้เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์ ไม่ใช่การยื่นจดทะเบียนแต่อย่างใด
2.สถานะของ บมจ.ไอทีวี ปัจจุบันมีสถานะ “ยังดำเนินกิจการอยู่” ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดนิยามไว้ แต่เป็นการระบุเพื่อให้ทราบว่า เป็นนิติบุคคลที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมาย (พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535) ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสถานะอื่นใด เช่น จดทะเบียนเลิก พิทักษ์ทรัพย์ ล้มละลาย หรือถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน เป็นต้น
ดังนั้น สถานะ “ยังดำเนินกิจการอยู่” จึงเป็นการบอกว่า นิติบุคคลได้ถูกจัดตั้ง และมีตัวตนอยู่ตามกฎหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่า นิติบุคคลนั้นมีการทำกิจการหรือประกอบกิจการทางการค้าใดในความเป็นจริงอยู่หรือไม่ ซึ่งหากมีการประกอบกิจการในลักษณะใด จะแสดงข้อมูลผลการดำเนินการและฐานะการเงินในงบการเงินนั้น
หากเปรียบเทียบกับสถานะของบุคคล ก็เปรียบเสมือนบุคคลที่เกิดและยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอาจจะทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้
3.รายงานการประชุมของบริษัทฯ การนำส่งสำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีของบริษัทมหาชนจำกัดนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบการยื่นแจ้งงบการเงินประจำปีของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี และยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
ซึ่งจะทำให้ทราบว่า งบการเงินฉบับดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 มาตรา 127 ที่ระบุว่า “บริษัทต้องจัดส่งรายงานประจำปี พร้อมกับสำเนางบดุลและบัญชีกำไรขาดทุน ที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้ว และสำเนารายงานประชุมผู้ถือหุ้นเฉพาะที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบดุล การจัดสรรกำไร และแบ่งเงินปันผล” โดยกรมฯ มีหน้าที่รับเอกสารตามที่นิติบุคคลได้ยื่นต่อกรมฯ
หากพบว่า มีรายงานการประชุมในส่วนของวาระอื่น นอกเหนือจากที่กรมฯ ได้ระบุ และนอกเหนืออำนาจตาม พ.ร.บ.บริษัทมหาชนฯ ที่อาจก่อให้เกิดข้อโต้แย้งใดแก่ผู้ถือหุ้นและบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้น ๆ อาจพิจารณาเป็นการดำเนินการเป็นการภายในของบริษัทที่จะต้องมีการตรวจสอบและชี้แจงต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ
กกต.เตรียมรับรอง ส.ส.สัปดาห์หน้า แต่ไม่ยืนยันครบ 100%
"ไข่ไก่" แพง คนหันซื้อ "ไข่เป็ด" ยอดขายดีจนเกษตรกรโคราชอยากเลี้ยงเพิ่ม