วันนี้ (24 มิ.ย.2566) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน บริเวณใกล้พระราชวังเครมลินและจตุรัสแดง ใจกลางกรุงมอสโก มีรถทหารประจำการหลายคัน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ออกตรวจตราตามจุดต่างๆ ในเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น หลังจากทางการรัสเซียสั่งยกระดับความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญในเมืองหลวง
เช่นเดียวกับในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งพบเห็นรถทหารออกมาปิดกั้นถนนบางส่วน เช่น ที่รอสตอฟ-ออน-ดอน ทางตอนใต้ของรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้ เยฟเกนี พริโกซิน ผู้ก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ ประกาศว่า จะนำกำลังพล 25,000 นาย เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโก เพื่อจัดการกับผู้บริหารกระทรวงกลาโหมรัสเซีย หลังจากกองกำลังวากเนอร์ถูกโจมตีทางอากาศจากฝ่ายรัสเซียเอง จนทำให้มีนักรบเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมทั้งประกาศว่าเขาและกองกำลังนี้พร้อมจะทำลายใครก็ตามที่พยายามขัดขวาง
นอกจากนี้ ประชาชนรัสเซียที่อาศัยอยู่ใกล้พรมแดนยูเครน ได้รับคำแนะนำให้อยู่ในความสงบและเก็บตัวอยู่ในบ้าน และยังมีรายงานการตัดสัญญาณอินเทอร์เนตเป็นบางส่วนด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกแถลงการณ์ด่วน ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ร่วมกับรัฐบาลและหน่วยปราบปรามการก่อการร้าย เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าคำกล่าวอ้างของพริโกซินไม่เป็นความจริง และเป็นการกระทำยั่วยุ
เหตุดังกล่าวส่งผลให้ทางการรัสเซีย กล่าวหาว่า พริโกซิน กำลังกระทำการลุกฮือก่อจลาจลต่อต้านอำนาจ พร้อมสั่งเปิดการสอบสวน และให้จับกุมตัว พริโกซิน ซึ่งเหตุการณ์นี้นับเป็นความขัดแย้งภายในครั้งรุนแรงที่สุดที่รัสเซียต้องเผชิญ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
"ปูติน" ย้ำผู้ทรยศย่อมถูกลงโทษ
ล่าสุด สำนักข่าว CNN รายงานว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์เตือนกลุ่มผู้ผลักดันให้เกิดการกบฏทางทหารให้ยุติการกระทำดังกล่าวลงเดี๋ยวนี้ ความวุ่นวายภายใดๆ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความเป็นรัสเซีย และประชาชน ภัยคุกคามดังกล่าวจะเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรง พร้อมย้ำว่า
ปธน.ปูติน ขณะแถลงการณ์เตือน
เราต้องการความสามัคคี การรวมเป็นหนึ่ง และความรับผิดชอบ
ขณะที่ผู้นำกลุ่มวากเนอร์ประกาศชัด หากรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียไม่ยอมเดินทางมาพูดคุยที่ รอสตอฟ-ออน-ดอน ทางกองกำลังวากเนอร์ก็พร้อมจะเดินทางเข้ากรุงมอสโกทันที
อ่านข่าวอื่นๆ :
โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา 3 ก.ค.66
วงในเผยผู้บริหาร "โอเชียนเกต" เคยถูกเตือน "อาจทำคนเสียชีวิต"