วันนี้ (26 มิ.ย.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังร่วมโครงการจัดระเบียบสายสื่อสาร บริเวณหน้าห้างสรรพิสินค้าโรบินสัน บางรัก ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก ว่า การเอาสายสื่อสารลงดินเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งในแง่ของการลงทุนและกระบวนการต่าง ๆ โดยมี 2 รูปแบบ คือ
การไฟฟ้านครหลวง (MEA) หักเสาแล้วก็เอาสายไฟฟ้าลงดิน แต่การทำแบบนั้นต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งที่เห็นสายรกรุงรังนั้นไม่ใช่สายไฟฟ้าแต่เป็นสายสื่อสาร การไฟฟ้านครหลวงมีแผนนำสายไฟฟ้าลงดินกว่า 230 กิโลเมตร แล้วสายสื่อสารก็จะตามลงไปด้วย ในส่วนของ กทม.มีแผนจะนำสายไฟฟ้าลงดินกว่า 2,000 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน
นายชัชชาติ กล่าวว่า อีกส่วนคือการตัดสายสื่อสารให้เป็นระเบียบ ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยใช้งบประมาณต่ำกว่าและทำได้เร็วกว่ามาก วันนี้เริ่มกระบวนการที่ทำตรงนี้ก่อน ซึ่งจะทำให้เมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ต้องใช้งบประมาณและระยะเวลา
การทำงาน ไม่ใช่ว่า กทม.จะนำกรรไกรมาตัดได้เลย เรื่องของสายสื่อสารอยู่ในการควบคุมของ กสทช. เสาไฟฟ้าเป็นของการไฟฟ้านครหลวง และตัวสายสื่อสารก็เป็นของผู้ประกอบการ Operator
ด้านนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้ได้รับความร่วมมือจากการไฟฟ้านครหลวง ในการลงทะเบียนสายสื่อสารใหม่ให้เป็นระเบียบก่อนที่จะพาดสายสู่เสาไฟฟ้า ทำให้ทราบว่าสายดังกล่าวเป็นของผู้ประกอบการรายใด
ที่ผ่านมามีการพาดสายสื่อสารโดยไม่ได้ขออนุญาต หรือเป็นสายเถื่อน แต่คราวนี้จะชัดเจนขึ้น
นายวิศณุ กล่าวว่า เฉพาะถนนเจริญกรุง คาดว่าจะตัดสายสื่อสารหมดประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต่อจากนั้นจะดำเนินการต่อที่ศาลาแดง ถนนคอนแวนต์ ซอยพิพัฒน์ ส่วนต่อไปคือถนนสุขุมวิท ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วที่ซอย 13 เดือนหน้า (ก.ค.66) จะดำเนินการที่ซอย 11, 15, 17, 19 และซอย 36 อีกด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่า ในปี 2566 การไฟฟ้านครหลวง มีแผนบูรณาการจัดระเบียบสายสื่อสารเป็นระยะทางทั้งสิ้น 450 กิโลเมตร รับผิดชอบในการติดตั้งคอนสายสื่อสารเพื่อใช้สำหรับการยึดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า ควบคุมให้ติดตั้งสายสื่อสารตามมาตรฐาน และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การติดตั้งสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าของ MEA รวมถึงจะมีการบันทึกข้อมูลของสายสื่อสาร และแผนผังเส้นทางที่ติดตั้งสายสื่อสารในแผนที่ภูมิศาสตร์สารสนเทศ (GIS) เพื่อบริหารจัดการในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเพิ่มไฟฟ้าแสงสว่างทั้งเมืองกว่าแสนดวง โดยเปลี่ยนเป็นหลอด LED รวมถึงเสาไฟฟ้ายังสามารถควบคุมความสว่างด้วยระบบ lot ได้ ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Smart City อีกด้วย