วันนี้ (21 ส.ค.66) นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวหลังจากการประชุม สส.พรรคว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้มารายงานต่อที่ประชุมพรรคถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ 11 พรรคการเมือง โดยได้มีการหารือกัน ซึ่งที่ประชุมพรรคมีมติโหวตสนับสนุน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) โดย 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันจะสนับสนุนการจัดรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย
สำหรับเรื่องโควตา 8 เก้าอี้รัฐมนตรี ทางหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคได้ชี้แจงว่า ได้รับการจัดสรรมาจำนวน 4 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการ โดยจากนี้จะเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะไปพูดคุย และหารือต่อไป
ขณะนี้ยังไม่ได้มีการระบุว่า จะได้กระทรวงใด ต้องรอให้การจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยเสียก่อน มั่นใจว่า บุคลากรทุกคนของพรรคภูมิใจไทยมีคุณภาพ ต้องรอดูว่า จะจัดสรรอย่างไรบ้าง และใครมีความเหมาะสมกับงานด้านไหน
ส่วนโผเก้าอี้รัฐมนตรีที่หลุดมา ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่พรรคภูมิใจไทยจะได้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ในที่ประชุม
ส่วนเรื่องการเลือกสมาชิก สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อมาร่างรัฐธรรมนูญ นายภราดร กล่าวว่า ตามที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงการณ์ร่วม ชัดเจนอยู่แล้วว่า ต้องการจะมีรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนและเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างมาจากประชาชน โดยเฉพาะหมวดพระมหากษัตริย์จะไม่มีการแตะต้อง ถือเป็นจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยอยู่แล้ว อีกทั้งพรรคเพื่อไทยก็แสดงจุดยืนแล้วว่า ทันทีที่ตั้งรัฐบาลได้ก็จะเดินหน้าทำประชามติก่อน
นอกจากนี้ นายภราดร ยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยขอเข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคเดิม ที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ตามที่ น.ต.ศิธา ทิวารี กล่าวอ้าง
"อนุทิน" มั่นใจโหวตนายกฯ ราบรื่น
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการแบ่งโควตากระทรวง ที่พรรคภูมิใจไทย ได้จำนวน 8 กระทรวง ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหารือ ซึ่งมีการพูดคุยกับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยความเข้าใจถึงออกมาเป็นแถลงการณ์ร่วมกันในวันนี้
ส่วนเมื่อถามว่า หลักการไม่มีข้อจำกัดกระทรวงเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีข้อจำกัด และยอมรับว่า ได้มีการพูดคุย พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องการทำงานต่อกระทรวงเดิมไป แต่สุดท้ายต้องมีการหารือกันในพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคแกนนำคือ พรรคเพื่อไทยไปหารืออีกครั้ง คงต้องใช้เวลา ทุกอย่างต้องเชื่อใจกัน เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะถ้ามีปัญหาจะไม่มีแถลงการณ์ในวันนี้
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีความชัดเจนก่อนเลือกนายกฯ หรือไม่ นายอนุทินกล่าวย้ำว่า เราต้องเชื่อใจกัน จะทำงานด้วยกันต้องเชื่อใจกันในการบริหารบ้านเมือง ถ้าเราไม่เชื่อใจกัน เราก็ไม่ควรแม้กระทั่งไปร่วมแสดงเจตจำนงในการทำงานด้วยกัน ส่วนที่บอกว่า ต้องเชื่อใจกันคือพรรคเพื่อไทยรับรู้แล้วและโอเคตามนั้นใช่หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า จะได้กระทรวงเดิมหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่เงื่อนไขกับพรรคอื่นด้วย แต่เท่าที่คุยในระดับหนึ่งเชื่อว่าในฐานะพรรคแกนนำและผู้บริหารพรรคเพื่อไทยจะมีทางออกที่ดี ที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย ไม่มีปัญหาใด ๆ ในการร่วมรัฐบาล
ส่วนโผ ครม.ที่หลุดออกมาว่า พรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้นนายอนุทินกล่าวว่า อย่าเพิ่งคุยในเรื่องนี้เลยเพราะต้องผ่านการโหวตเลือกนายกฯก่อน แล้วตำแหน่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเรื่องของการโปรดเกล้าฯ ซึ่งนายกฯจะต้องเป็นผู้ทูลเกล้าฯถวาย ให้ทรงลงพระปรมาภิไธย จึงเป็นเรื่องไม่บังควรที่จะมาพูดก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกนายกฯ ในวันพรุ่งนี้จะราบรื่นจะได้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกคนที่ 30 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่คุยกับพรรคแกนนำและพรรคร่วมอื่น ๆ คิดว่าน่าจะราบรื่น ทุกคนมีความมั่นใจ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ารวมถึงเสียง สว.ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ตอบย้ำว่า ราบรื่นก็ต้องราบรื่นทั้งหมดทั้ง สส.ที่มี 314 เสียง และยังขาดอยู่ 61 เสียง โดยมั่นใจว่า มาถึงจุดนี้ สว.ที่มีความกังวลเรื่อง ม.112 ก็ไม่มีแล้ว เรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ไม่มีและพรรคก้าวไกลก็ไม่ได้อยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าจะไม่มีผิดแผน มาถึงพรรคอันดับ 3 คือพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องทำให้ความถูกต้อง ความเหมาะสม มารยาทต่าง ๆ ทุกอย่างรวมกัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกติกามารยาท มันก็จะไม่มีปัญหาอะไรต่อไปอีก ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 3 ตนได้พูดมาตลอด และได้ทำตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” ไม่ไปแย่งใครจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าจะมีแรงยุแรงส่งยังไงก็ตาม เราก็พยายามที่จะรักษากติกามารยาททางการเมืองให้มากที่สุด
ส่วนการแถลงข่าวร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีการหารือถึงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยเรื่องกัญชาทางการแพทย์อย่างไร ในเชิงรูปธรรม นายอนุทินระบุว่า ขณะนี้กฎหมายยังค้างอยู่แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยก็ยังยืนยันว่านโยบายกัญชาทางการแพทย์เพื่อสุขภาพทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นทำให้ประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคหลายโรคมีทางเลือกในการรักษา
เรายังยืนยันในเจตนารมณ์ของเรา ซึ่งทุกพรรคในพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีใครโต้แย้งหรือซักถามใด ๆ แต่เราเน้นว่าไม่ใช่กัญชาเสรีหรือเพื่อสันทนาการ นันทนาการแต่อย่างใด แต่เพื่อสุขภาพทำให้เศรษฐกิจแข็งแรงเป็นปัจจัยเชิงบวก
ทั้งนี้ จะสามารถพูดได้หรือไม่ว่า รัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลสลายสีเสื้อการเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบเพราะในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.66) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็จะเดินทางกลับประเทศไทยด้วย นายอนุทินกล่าวว่า อย่าไปผูกกัน เพราะการรวมของ 11 พรรคการเมืองถ้าจะมองแบบในแง่ดี คือ พรรคเหล่านี้เคยมีการทำงานอยู่คนละฝ่ายเมื่อมีความจำเป็นต้องมารวมทำงานกันเพื่อประเทศชาติความแตกแยกความขัดแย้งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย การทุจริต คดโกงอะไร
ในเรื่องความคิดทางการเมืองที่คิดว่าชาตินี้ จะไม่เผาผีกันแล้วนั้นก็อาจจะทำให้ความรู้สึกเกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ ทุกคนทำตามหน้าที่และบทบาทก็มี เมื่อตรวจสอบก็ตรวจสอบอย่างเต็มที่ เวลาทำงานก็ทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่ทำผิดกฎหมายไม่ทำอะไรด้วยเจตนาที่ทุจริต ไม่สุจริต ก็ทำงานกันได้เพื่อบ้านเพื่อเมือง
ส่วนรายงานข่าวที่ว่านายทักษิณจะกลับในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.66) นั้น นายอนุทิน มองว่าท่านคงมีความพร้อมและมั่นใจว่าจะได้รับความยุติธรรม เข้ามาตามขั้นตอนกฎหมายทุกประการ ปฏิบัติตามระเบียบต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมต้องดำเนินการ