ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โหวตนายกฯ รอบ 3 : "เสรี" รับยังคาใจคุณสมบัติ "เศรษฐา" หลัง "ชูวิทย์" แฉ

การเมือง
22 ส.ค. 66
11:00
3,220
Logo Thai PBS
โหวตนายกฯ รอบ 3 :  "เสรี" รับยังคาใจคุณสมบัติ "เศรษฐา" หลัง "ชูวิทย์" แฉ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"เสรี" ไม่รู้วันนี้ได้นายกฯ ชื่อ "เศรษฐา" หรือไม่ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ รับยังคาใจคุณสมบัติหลัง "ชูวิทย์" ออกมาแฉ ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เพราะทำตามหน้าที่ แนะถ้าเจ้าตัวมาแจงในสภาจะได้เคลียร์กว่า สงสัยทำไม "ทักษิณ" ต้องกลับวันโหวตนายกฯ

เริ่มแล้ว โหวตนายกรอบ 3 วันอังคารที่ 22 ส.ค. 66

วันนี้ (22 ส.ค.66) ก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี สว.หลายคนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยมีความคิดเห็นหลากหลาย 

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ของ กมธ.การเมืองฯ ก่อนโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้ว่า เป็นการตรวจสอบตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้มายื่นในส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มีการแถลงตั้งแต่ครั้งแรก เป็นเรื่องของเอกสารโฉนดที่ดินและสัญญาต่าง ๆ และดูลำดับการได้มาซึ่งที่ดินซึ่งจะไปอภิปรายในสภาให้เข้าใจ แต่ตนเห็นว่าเนื้อหาจริง ๆ อยู่ที่การแถลงของนายชูวิทย์ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ซึ่งชัดเจนและมีความสำคัญ

อ่านข่าว สส.ก้าวไกล รับไม้ต่อข้อมูล "เศรษฐา" ก่อนโหวตนายกฯ 

เมื่อถามถึงข่าวที่ระบุว่า ขณะนี้จำนวนเสียงของ สว.ที่จะโหวตนายกฯได้ครบแล้ว นายเสรี กล่าวว่า ไม่ทราบเลย แต่เมื่อถามต่อว่าถ้าการตรวจสอบคุณสมบัติไม่เสร็จสิ้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจของ สว.หรือไม่ โดยระบุว่า ก็เป็นส่วนที่เขาเสนอมา ก็ดูว่ามีปัญหาในส่วนไหน ถ้าหากเป็นส่วนเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ หรือเรื่องจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ก็ว่ากันในสภา ที่จะตรวจต่อไปก็คือเรื่องที่เขาไปยื่นกันไว้ เรื่องภาษี เรื่องความถูกต้องของเอกสาร ซึ่งนายชูวิทย์ก็ได้ไปยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว สำหรับส่วนตัวตัดสินใจแล้วแต่ขอไปฟังการชี้แจงในสภาอีกครั้ง

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา

เมื่อถามว่า ขณะนี้นายเศรษฐาควรสบายใจได้แล้วหรือยัง สำหรับเสียงของ สว.ซึ่งน่าจะดี นายเสรี กล่าวว่า คะแนนส่วนใหญ่อยู่ที่แต่ละบุคคล ถ้าพูดกันตามเนื้อผ้า ซึ่งแต่ละบุคคลก็ มีข้อมูลที่ได้รับมา คงไปตัดสินใจในที่ประชุม ถ้ามีเรื่องค้างคาข้อสงสัยก็ไปฟังดูว่า พรรคเพื่อไทยที่จะมาตอบแทนนายเศรษฐาจะตอบได้มากน้อยแค่ไหน แต่ตนคิดว่าทุกคนก็พร้อมจะพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

เมื่อถามว่านายเศรษฐาจะเปลี่ยนใจมาชี้แจงหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าก็สามารถมาชี้แจงได้แต่จะชี้แจงได้หรือไม่ แม้ว่าข้อบังคับในรัฐธรรมนูญจะไม่ได้กำหนดในเรื่องเหล่านี้ไว้ แต่ก็เป็นเรื่องทั่วไปของการพิจารณาในสภา ที่สามารถขออนุญาตประธานมาชี้แจงในสภา อยู่ที่ว่าสมัครใจจะมาหรือไม่

แต่ตนคิดว่าผู้ที่จะเป็นนายกฯ ถ้าช่วงนี้มีคำถามมาก ถ้ามาชี้แจงและตอบข้อซักถามได้ น่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า แทนที่จะไม่มาตอบและครอบคลุมเครือ กลายเป็นปัญหาเรื่องการตัดสินใจ ถ้ามาก็ดีที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องความสมัครใจ ไปบังคับไม่ได้

ส่วนคุณสมบัติของนายเศรษฐาดีพอที่จะเป็นนายกฯได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าจากการที่ฟังนายชูวิทย์ 2 ครั้งสุดท้าย ก็มีคำถามจำนวนมากซึ่งควรจะมีความชัดเจน เพราะการไปทำหน้าที่เป็นผู้นำประเทศ บริหารประเทศ และไปเทียบกับการบริหารหน่วยงานที่เป็นบริษัทมหาชน ซึ่งเป็นของประชาชนแล้วมีการเสนอข้อมูลต่างๆที่ควรตอบให้กระจ่าง อย่างน้อยก็เพื่อความชัดเจน และเป็นที่ยอมรับ จะได้หมดข้อครหาในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งก็แล้วแต่นายเศรษฐาจะพิจารณา

อ่านข่าว "สุทิน" เชื่อ "ทักษิณ" กลับไทย ไม่มีผลต่อการตั้งรัฐบาลเพื่อไทย 

เมื่อถามว่า สว.มีเวลาตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทันเวลาหรือไม่ เมื่อเทียบกับนายพิธา เจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกลเพราะเปิดตัวแบบกระชั้นชิด นายเสรี กล่าวว่าไม่มีปัญหา เพราะมีข้อมูลปรากฏต่อสาธารณะส่วนหนึ่ง

อีกส่วนพรรคเพื่อไทยก็พยายามปรับตัว สังเกตได้จากเนื้อหาที่แถลงนโยบาย เช่น ตัดปัญหาเรื่อง ม.112 ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่กระทบต่อสถาบันฯ เห็นความพยายามตั้งใจที่จะลดปัญหา ซึ่งปัญหาของนายเศรษฐาและนายพิธาไม่เหมือนกันของนายเศรษฐาเป็นเรื่องข้อมูลเดิมที่เคยกระทำการใด ๆ มาแล้ว และถูกตรวจสอบ ว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ หรือขาดจริยธรรมอย่างไร ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่ไม่เหมือนกับนายพิธาเสียทีเดียว

ปัญหาของนายเศรษฐาเบากว่าปัญหาของนายพิธาหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า หนัก-เบา เทียบกันไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

ผู้สื่อข่าว ถามย้ำว่า ยังมี สว. อีกหลายคนหรือไม่ที่ยังคาใจกับเรื่องนี้ นายเสรีกล่าวว่า เท่าที่คุยไม่ใช่เรื่องคาใจ แต่มันเป็นเรื่องหน้าที่ของการตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้าม สว.หลายคนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะถ้าเราเลือกไปแล้ว คุณสมบัติเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.160 ถ้าจะผ่านการพิจารณาวันนี้ไป เงื่อนไขนี้ก็เป็นคุณสมบัติการเป็นนายกฯซึ่งอาจถูกตรวจสอบหรือส่งไปศาลรัฐธรรมนูญได้ตามรัฐธรรมนูญ ม.170 ซึ่งจะไม่จบ ให้ดีคือเอาให้กระจ่างจะได้ไปทำงานบริหารประเทศ ไม่ใช่ไปแล้วติดคดี ถูกร้อง เสียสมองกับการใช้เวลาดูแลประชาชน เอาให้เคลียร์ ถ้าไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ก็เป็นนายกฯ ได้อย่างเหมาะสมภาคภูมิ แต่ถ้าติดจริง ๆ ก็ว่าตามเนื้อผ้า

การที่พรรคเพื่อไทยไปร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังกังวลกับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าถ้าแถลงกันมาชัด ๆ ว่าไม่ทำอะไรทั้งฉบับ หรือแตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เป็นเรื่องสบายใจก็จะหมดปัญหานี้ไป แล้วก็ไปพยายาม ลดปัญหาของคนที่ทำผิดกฎหมาย หรือประชาสัมพันธ์กับประชาชน ว่าอย่าไปทำเรื่องเหล่านี้เลย

อ่านข่าว "ทักษิณ" คืนกลับแผ่นดินเกิดในรอบ 17 ปี 

ทั้งนี้ นายเสรี ยังไม่แน่ใจว่า วันนี้จะได้นายกฯ หรือไม่ เพราะเรื่องยังไม่ชัดเจน 100% ว่าเป็น นายเศรษฐาหรือไม่ เพราะโอกาสก็เปลี่ยนได้ตลอด เพราะฉะนั้นดีที่สุด ชัดเจนที่สุดคือ ตอนที่มีการเสนอชื่อ

เมื่อถามถึงการเดินทางกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีผลต่อการโหวตนายกฯหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่าไม่แน่ใจ แต่ทำไมกลับมาวันเดียวกัน ก็ควรมีความหมาย หรือมีอะไรที่เชื่อมโยงกันหรือไม่ ก็สงสัยอยู่ เพราะวันอื่นก็มี แต่ปรากฏว่ามาวันเดียวกัน ตนไม่แน่ใจ แต่ก็อาจไม่เกี่ยวกัน แค่สันนิษฐานไว้ และเชื่อว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจของ สว. เพราะ สว.ก็ทำหน้าที่คัดสรรนายกฯให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีเกมเปลี่ยนใช่หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องเกม เปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ไม่รู้ เพราะในสถานการณ์ที่เห็น มันเปลี่ยนได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

"ดิเรกฤทธิ์" ขอฟังอภิปราย ก่อนพิจารณาโหวตนายกฯ 

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.กล่าวว่า ขอฟังการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในวันนี้ ทั้งจาก สส.พรรคก้าวไกล และ สว. รวมถึงจะนำข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาเปิดเผยเกี่ยวกับกรณีการซื้อขายที่ดินของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และข้อมูลจากนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐยื่นร้องต่อกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภาด้วย

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.

แต่ส่วนตัวขณะนี้ยังให้คะแนนเต็มร้อยไปก่อน และหากรับฟังการอภิปรายแล้วยังติดใจอาจจะหักคะแนนออก พร้อมย้ำว่าตนจะทำใจเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ซึ่งส่วนตัวได้เฉลยข้อสอบไปแล้วว่าการได้เสียงข้างมากในสภา ถือว่าได้คะแนนเต็มแล้ว หากมีการชี้แจงหรืออธิบายเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตได้ชัดเจน ก็จะไม่มีการตัดคะแนน และสามารถอธิบายได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดย ส.ส.ร.จะไม่เป็นปัญหากับประเทศ ก็จะไม่หักคะแนน

นายดิเรกฤทธิ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการแจกกล้วยซื้อโหวต สว.จำนวน 30 ล้านบาทว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง แต่มองว่า จะเป็นการชี้นำในการลงคะแนนและกระแสข่าวที่ออกมาตนไม่ทราบว่าใครปล่อยข่าวมา เพราะมีคผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ เนื่องจากผู้ที่ตัดสินใจเลือกนายเศรษฐา หากมีกระแสข่าวนี้ขึ้นมาก็อาจจะเปลี่ยนใจ และทุกอย่างไม่มีความลับ สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ ซึ่งหากไปรับเงินโดยไม่สุจริตก็เป็นความด่างพร้อย

ทั้งนี้ ยังประเมินเสียงการโหวตนายเศรษฐา ที่ขาดอีกเพียง 60 เสียงน่าจะผ่านไปได้ ซึ่งขณะนี้ สว.มี 249 คน และเชื่อว่า สว.หลายคนเคารพกติกาประชาธิปไตย และต้องการให้บ้านเมืองเดินต่อ

"ประเสริฐ" ไม่เคยได้ยิน 100 สว. โหวตหนุน "เศรษฐา" 

ด้านนายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ สว. กล่าวถึงการลงมติโหวตเลือกนายกฯวันนี้ว่า สว.เป็นอิสระในการแสดงความเห็นและอภิปราย โดยไม่สามารถคาดเดาได้ว่า มีจำนวนเท่าใดเพราะเป็นเอกสิทธิ์ของ สว.ที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนและเพื่อความมั่นคงของชาติ

นายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ สว.

นายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ สว.

นายประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ สว.

พร้อมยอมรับมีการพูดคุยกันบ้างในบรรดา สว. ซึ่งมองว่า สถานการณ์ขณะนี้แตกต่างจากการโหวตเลือกนายกฯ สมัยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ สว.ส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันแต่การโหวตเลือกครั้งนี้ ยังมีความเห็นหลากหลาย

อ่านข่าว "ก้าวไกล" มีมติโหวต "ไม่เห็นชอบ" ให้ " เศรษฐา" เป็นนายกฯ 

ส่วนหนึ่งต้องการเห็นในเชิงนโยบายโดยเฉพาะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ที่เชื่อว่าฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ดี มีการป้องกันทุจริตที่เข้มแข็ง ไม่เห็นควรให้แด้ทั้งฉบับ ถ้ามีโอกาสที่ สว.จะอยู่ทำหน้าที่ก็จะช่วยทำหน้าที่ในฝั่งของ สว.

นายประเสริฐ ยอมรับว่ามี สว.เป็นกลุ่มแต่ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์หรือว่าบังคับให้เลือกฝั่งหนึ่งฝั่งใด ด้วยวัยวุฒิและเกียรติคุณของสมาชิกวุฒิสภาเอง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามี สว.จำนวน 100 เสียงสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯจากเพื่อไทยนั้นยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้

อ่านข่าว ครั้งสุดท้าย "ชูวิทย์" เปิดข้อมูล บ.แสนสิริ ใช้นอมินีซื้อที่ดินโยง "เศรษฐา" 

แต่เชื่อว่าเป็นการคาดเดาเหมือนครั้งที่แล้วกรณีเลือกนายกฯจากพรรคก้าวไกลก็เป็นการคาดเดาเพราะได้เพียงไม่กี่เสียง ซึ่งการขับเคลื่อน ต้องขับเคลื่อนด้วยเป้าและชี้นำด้วยตัวเลข แต่ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สามารถกะเกณฑ์จำนวนได้ ไม่เคยได้ยิน สว.พูดถึงเรื่องตัวเลขจะโหวตสนับสนุน ทั้งนี้เชื่อว่า ถ้าไม่ติดในประเด็นใดถ้าการโหวตนายกฯวันนี้ผ่านได้ประเทศจะได้มี นายกฯ

ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนายเศรษฐา นายประเสริฐ เชื่อว่า ประชาชนจะมีคำถามในใจ แม้ว่าจะดีใจที่จะได้นักธุรกิจมาทำงานแต่ก็กังวลใจว่าคนที่จะเป็นเบอร์ 1 ของประเทศ ถ้ามีปัญหาประชาชนก็คงมีคำถามแต่บางคนอาจบอกไม่เป็นไร บางคนบอกว่าเป็น ถึง ผู้นำประเทศต้องกลับมาไตร่ตรองว่าถ้าเป็นเช่นนี้จะต้องดูว่าอะไรที่เป็นในแง่ของจริยธรรม หรือนโยบายทางการเมือง จึงคาดเดาไม่ได้ว่าเพื่อนสมาชิกจะเลือกใครหรือจำนวนเท่าใด

ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางกลับบ้านนายประเสริฐ เชื่อว่า จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจโหวตเลือกนายกฯ ในวันนี้แต่อาจมีผลต่อ ความรู้สึกของคนไทยที่เป็นแฟนคลับ ซึ่งเมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และ เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามครรลอง

ส่วนตัวมีความภาคภูมิใจว่า อดีตผู้นำประเทศ ที่มีคุณงามความดีให้กับประเทศ กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายและขั้นตอนของพระราชทานอภัยโทษ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีและเชื่อว่าอดีตผู้นำประเทศจะกลับมาสร้าง คุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อีกมากมาย

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"สุทิน" เชื่อ "ทักษิณ" กลับไทย ไม่มีผลต่อการตั้งรัฐบาลเพื่อไทย  

สส.ก้าวไกล รับไม้ต่อข้อมูล "เศรษฐา" ก่อนโหวตนายกฯ  

"ทักษิณ" คืนกลับแผ่นดินเกิดในรอบ 17 ปี 

ครั้งสุดท้าย "ชูวิทย์" เปิดข้อมูล บ.แสนสิริ ใช้นอมินีซื้อที่ดินโยง "เศรษฐา" 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง