เลือกตั้งรอบนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือบิ๊กป้อม เปิดหน้า-เปิดตัว เป็นภาพแทนของพรรคพลังประชารัฐเต็มตัว ในนามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และ สส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ของพรรค เส้นทางสู่สภาฯ จึงเริ่มขึ้น
พล.อ.ประวิตร ลุยหาเสียงด้วย "บัตรลุงป้อม 700" บลัฟ-เกทับ "บัตรลุงตู่" นโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ปล่อยมาชุดแรกหวังกวาดคะแนนให้ สส. ต่อมา “บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะคลอดอีกหลายนโยบาย หวังได้ สส.ไม่ต่ำร้อย เหมือนการเลือกตั้งปี 2562
ช่วงการหาเสียงเป็นนาทีทองที่ทำให้ประชาชนได้เห็นอีกด้านหนึ่งอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งการเปิดบ้านทำอาหาร คุยกับสื่อ หรือแม้กระทั่งร่วมวงมินิทอร์ก ยอมตอบคำถามที่ “บิ๊กป้อม” ตอบบ่อย ๆ ว่า “ไม่รู้ ไม่รู้”
หลังการเลือกตั้ง “บิ๊กป้อม” เข้าสภาฯ ด้วยตำแหน่ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ “หนึ่งเดียว” ของพรรคพลังประชารัฐ แต่ภาพรวมของพรรค ตกชั้นเป็นพรรคอันดับ 4 ได้ สส.เพียง 40 คน ทว่าการปรากฏตัวในสภาฯ กลับเป็น สส.มากบารมี สส.ทุกขั้ว ทุกพรรค รายล้อม
แต่การโหวตไม่เห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา กลายเป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็น พล.อ.ประวิตร ได้ใช้สิทธิ-ใช้เสียงในฐานะ สส. หลังจากนั้นกลายเป็น “มังกรเร้นกาย” หายหน้าจากสภาฯ และไม่ได้ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี "เศรษฐา ทวีสิน" จากพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา แม้ 2 ป. "พล.อ.ประวิตร-พล.อ.ประยุทธ์" จะหยอกแซวกันอย่างสนิทสนม แต่ดีลตั้งรัฐบาลเพื่อไทย กลับมีรายงานความขัดแย้งของ 2 ป. เมื่อมีรายงานว่า ป.ประยุทธ์ ชิงดีลร่วมรัฐบาล พร้อมส่งไฟเขียวให้ สว.ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีจากเพื่อไทย ปิดทางการส่งไม้ต่อโหวตนายกรัฐมนตรีจากพรรคอันดับ 4 อย่าง ป.ประวิตร
แม้ “บิ๊กป้อม” พี่ใหญ่ 3 ป. ประกาศลาเก้า สส. แต่นี่ไม่ใช่ภาพสุดท้ายทางการเมือง เพราะยังมีตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่หลังจากนี้จะวางมือ ซอฟต์แลนดิ้ง ตาม พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ยังไม่แน่ชัด