วันนี้ (30 ก.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการมอบหมายให้ รมช.คมนาคม เร่งดูแลผู้โดยสารและซ่อมแซมทางที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ ขบวนรถไฟตกรางระหว่างสถานีแก่งหลวง-บ้านปิน เป็นการด่วน พร้อมแจ้งปรับเปลี่ยนและงดเดินขบวนรถเส้นทางเหนือเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.-1ต.ค.2566 หลังเกิดสถานการณ์นํ้าท่วมหลายพื้นที่่
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสํานักงานผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ทําให้เกิดนํ้าท่วมเฉียบพลันและนํ้าป่าไหลหลาก อีกทั้งมีมวลนํ้าไหลเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีแก่งหลวง-บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่ ส่งผลให้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์–เชียงใหม่ เกิดตกราง และขบวนรถอื่นในเส้นทางสายเหนือไม่สามารถเดินรถผ่านได้นั้น
เบื้องต้น หลังเกิดเหตุ นายกฯ ได้มอบหมายให้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม สั่งการกําชับให้การรถไฟฯ เร่งดําเนินการช่วยเหลือผู้โดยสารและจัดการดูแลผู้โดยสารให้เดินทางต่อถึงที่หมายให้รวดเร็ว เรียบร้อย ปลอดภัย พร้อมกับเข้าไปดําเนินการซ่อมแซมปรับปรุงทางรถไฟ เพื่อให้สามารถเปิดเดินรถได้ตามปกติโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้การรถไฟฯ ดําเนินการตรวจสอบพื้นที่และรายงานสาเหตุของความเสียหาย ตลอดจนแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ซํ้าขึ้นอีก พร้อมกันนี้ยังให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากเกิดเหตุจําเป็นให้รายงานต่อ รมช.คมนาคม เพื่อสั่งการโดยทันที
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สั่งการให้ผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่เกิดเหตุและสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งดําเนินการยกรถที่ตกรางอย่างเร่งด่วน โดยคาดว่าจะสามารถยกรถที่ตกรางแล้วเสร็จภายในวันนี้ ขณะที่การดูแลผู้โดยสาร ไม่พบผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งการรถไฟฯ ได้จัดรถอํานวยความสะดวกขนถ่ายผู้โดยสาร ให้เดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการปรับปรุงเส้นทาง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงสํารวจพื้นที่แล้ว โดยพบว่าเส้นทางรถไฟช่วงระหว่าง สถานีแก่งหลวง-บ้านปิน ระดับนํ้ายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางรถไฟได้รับความเสียหาย มีนํ้ากัดเซาะหินบนทางรถไฟ ระยะทางประมาณ 20 เมตร ซึ่งจะเร่งดําเนินการซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
การรถไฟฯ จึงมีเหตุจําเป็น ขอแจ้งปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถในเส้นทางสายเหนือเพื่ออํานวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ยังมีความจําเป็นในการเดินทาง พร้อมกับแจ้งงดเดินรถบางขบวน ให้มีความเหมาะสมต่อสถานการณ์และความปลอดภัยของผู้โดยสาร ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.- 1 ต.ค.2566 มีโดยรายละเอียด ดังนี้
วันที่ 30 ก.ย.2566
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จํานวน 7 ขบวน ประกอบด้วย
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ ขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์จากสถานีเด่นชัยไปยังสถานีปลายทางตามตั๋วโดยสาร เริ่มจากบ้านปิน แม่เมาะ ลําปาง ลําพูน จนถึงปลายทางเชียงใหม่ เพื่อเป็นการดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
- ขบวนรถท้องถิ่นที่ 407 นครสวรรค์ - เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วง นครสวรรค์ – เด่นชัย และ ลําปาง - เชียงใหม่
- ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เชียงใหม่ - นครสวรรค์ มีเดินเฉพาะช่วง เชียงใหม่ - ลําปาง - เชียงใหม่ และ มีเดินเฉพาะช่วงเด่นชัย - นครสวรรค์
- ขบวนรถเร็วที่ 109 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ศิลาอาสน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ศิลาอาสน์ จากนั้นขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ไปยังสถานีปลายทาง
- ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 8 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
งดเดินขบวนรถ จํานวน 6 ขบวน
- ขบวนรถเร็วที่ 51 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่
- ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13/14 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/10 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
วันที่ 1 ต.ค.2566
ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทาง จํานวน 3 ขบวน
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 7 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เชียงใหม่ มีเดินเฉพาะช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - ศิลาอาสน์
- ขบวนรถเร็วที่ 102 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 8 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มีเดินเฉพาะช่วงศิลาอาสน์ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
งดเดินขบวนรถ จํานวน 2 ขบวน
- ขบวนรถด่วนที่ 52 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 14 เชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
นายเอกรัชกล่าวต่อว่า ในช่วงฤดูฝนที่กําลังมาถึงนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ยังได้กําชับให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์นํ้าและปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยให้ฝ่ายการช่างโยธา และนายสถานีในพื้นที่ได้เฝ้าระวังเพื่อประเมินและแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้จัดเตรียมกําลังเจ้าหน้าที่ มาตรการด้านความปลอดภัย อํานวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ส่วนประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบจากนํ้าท่วม หากไม่ประสงค์เดินทางสามารถติดต่อขอคืนเงินค่าตั๋วโดยสารได้เต็มจํานวน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมทั้งขอให้ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางกรุณาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งก่อนเดินทาง ซึ่งการรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้
อ่าน :
ฝนตกหนัก รถไฟกรุงเทพ-เชียงใหม่ ตกราง จ.แพร่ ผู้โดยสารเจ็บเล็กน้อย
ปิดชั่วคราว! อุโมงค์เชื่อมเขาใหญ่-ทับลาน น้ำป่าท่วมสูง 50 ซม.