นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการหารือกับคณะกรรมการหอการค้าฯ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะฝ่ายวิชาการ ถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทของรัฐบาล ที่อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดและรับฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนเพื่อประกอบการปรับปรุงรูปแบบของโครงการให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
โดยในหลักการหอการค้าฯ มองว่าสามารถดำเนินการได้ รวมทั้งสนับสนุนแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและยั่งยืน แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลจำเป็นต้องมีการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในมิติต่าง ๆ ไปพร้อมกัน
นายสนั่นกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างเหมาะสมรัฐบาลต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศมีข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจสูงสุด
หอการค้าไทยจึงมีแนวทางและข้อเสนอเพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณาประกอบการดำเนินมาตรการดังกล่าว ดังนี้
1. เสนอให้รัฐบาลใช้ระบบที่มีอยู่ของธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารภายใต้กำกับของรัฐบาล ที่มีประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนและใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันแล้วถึง 40 ล้านคน ร่วมกับ แพลตฟอร์มและวอลเล็ตที่หน่วยงานต่าง ๆ พัฒนาเป็นระบบ Hybrid เพื่อให้มีการชำระเงินดิจิทัลผ่านช่องทางต่าง ๆ ทันตามกำหนด
รัฐบาลควรสนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายและลงทุนในทุกระดับ เน้นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ผลิตขึ้นภายในประเทศ เชื่อว่าจะเกิดการ กระจายรายได้และหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและหลายรอบ
2. ให้รัฐบาลเน้นบริหารจัดการและพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปพร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อเพิ่มความสามารถทางการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำทางด้านชลประทาน โดยเฉพาะปัญหาเอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้และปีหน้า
นายสนั่นกล่าวอีกว่า หากปริมาณน้ำไม่เพียงพอกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มเกษตรกรที่ใช้น้ำถึงร้อยละ 72 ของการใช้น้ำทั้งหมดและเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดของประเทศ อีกทั้งจะมีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้นกว่า 7 ล้านครัวเรือน
ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันพบว่ามี 6 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดังนั้นการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้เชื่อมโยงกันทั้งประเทศอย่างเป็นระบบ จะช่วยทำให้ภาคการเกษตรของไทยมีความมั่นคง สามารถยกระดับผลผลิตและรายได้ให้กับเกษตรกรได้มากขึ้น
หอการค้าไทย เชื่อว่าจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ควบคู่กับมาตรการบริหารจัดการด้านอื่น ๆ และการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืน รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด จะทำให้นโยบายเงินดิจิทัลของรัฐบาลประสบความสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนทั่วประเทศ โดยหอการค้าไทยประเมินว่านโยบายดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของ GDP ปี 2567 ให้ขยายตัวได้ถึง 5% ตามที่รัฐบาลมุ่งหวังไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
“ภูมิธรรม”ยันเดินหน้าแจก 10,000 บาท ชี้อย่ากังวลเกินไป
ม.หอการค้าฯย้ำแจก10,000 บาท ควรทำเฉพาะกลุ่ม-แบ่งจ่ายรายงวด
ได้ไม่คุ้มเสีย! อดีตผู้ว่า ธปท. ร่วมเรียกร้องทบทวนแจกเงินดิจิทัล