“ใคร ๆ ก็ไม่รักผมขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย” เพลงดังของ “ลูกพลับ” ที่มีอายุนานกว่า 20 ปี และเจ้าของเพลงโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ยังเข้ากับสถานการณ์ทางการเมือง ในขณะนี้
โดยเฉพาะ สส.ที่เพิ่งไร้พรรคสังกัดทั้ง 2 คน อย่าง “สส.แจ้” นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี และ “สส.ปูอัด” นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม
ในรายของ “สส.แจ้” วุฒิพงศ์ ที่พรรคก้าวไกล มีมติขับพ้นพรรคมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัว ตั้งคำถามว่า “เป็น สส.ภูธร ทำงานในพื้นที่ ไม่มีพรรคพวกทางการเมือง” จึงทำให้ต้องกระเด็นออกจากพรรค
จนล่าสุด "สส.แจ้" ออกมาเปิดข้อมูล กรณี “ผู้ช่วย สส.” ทีมงานของ น.ส.เบญจา แสงจันทร์ มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นเงินหลายล้านบาท จน “หัวหน้าต๋อม” ธวัชชัย ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องออกมาชี้แจงและยืนยันว่า มติขับ "สส.แจ้" พ้นพรรค ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
ข้อเท็จจริงที่นายวุฒิพงศ์นำมากล่าวหาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ น.ส.เบญจา เป็นเพียงการกล่าวหาว่าทีมงานคนหนึ่งมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงเป็นผู้ช่วย สส.ของ น.ส.เบญจา จึงเป็นส่วนหนึ่งให้ถูกขับออกจากพรรค
ในภาวะขาลอย ไร้พรรคสังกัด “พี่เต้” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ออกมาอ้าแขนรับในฐานะที่เกิด จ.พิษณุโลก เหมือนกัน เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน และจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเดียวกัน ซึ่ง "พี่เต้" มองว่า พฤติกรรมของ "สส.แจ้" ไม่ถึงขั้นเป็นการคุกคามทางเพศ หากเป็นเพียงการพูดคุยผ่านไลน์ และในระยะเวลาที่เหลืออีก 3 ปี ที่เป็น สส.ควรจะทำงานพิสูจน์ตัวเองจะดีกว่า
แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจาก “สส.แจ้” ในทันที ด้วยเหตุผลว่า “อยากอยู่พรรคการเมืองที่สามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากกว่านี้” แต่ก็ยังนับถือ “พี่เต้” ในฐานะรุ่นพี่ ร่วมสถาบันฯ
ฟาก “สส.ปูอัด” นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.ที่ล่าสุดในการประชุมร่วมของพรรคก้าวไกล ระหว่างกรรมการบริหาร และ สส.ได้มีมติเอกฉันท์ ขับ "สส.ปูอัด" พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล
ส่วนการดูแลพื้นที่ กทม.เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม ที่ว่างลง ที่ประชุมให้ สส.เขตใกล้เคียงไปดูแลคือ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.ดูแลพื้นที่เขตบางขุนเทียน และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. ดูแลพื้นที่เขตจอมทอง - บางบอน - หนองแขม
จากนั้น “สส.ปูอัด” ก็ออกมาน้อมรับมติที่ถูกพรรคขับออก และย้ำว่า เป็นความผิดส่วนบุคคล ส่วนอนาคตจะไปอยู่พรรคไหนยังไม่ได้คิด การหาพรรคคงต้องถามประชาชนว่าอยากให้ยืนตรงไหน ยืนยันว่า ยังมีอุดมการณ์ไม่ต่างจากพรรคก้าวไกล
อย่างไรก็ตาม ในมุมของพรรคการเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจาก พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีพรรคใดอ้าแขนรับ 2 สส.ไร้สังกัด
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นรายแรกที่ประกาศปิดทางไม่รับ 2 สส.เข้าร่วมพรรค โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลมีเสียงในสภาฯแข็งแกร่งแล้ว และพรรคภูมิใจไทยก็เติบโตขึ้นมาก
ไม่รับครับ วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีปัญหาทางการเมือง รวมถึงต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วย วันนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว รัฐบาลเข้มแข็งเสียงในสภาฯมีเกือบ 320 เสียง พรรคภูมิใจไทยก็ใหญ่ขึ้นจาก 50 คน มาเป็น 71 คนก็น่าจะโอเคแล้ว อีกทั้งยังมีผู้สมัครที่เคยลงแข่งกับนายวุฒิพงศ์ คือ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีต สส.ปราจีนบุรี ถ้ารับนายวุฒิพงศ์มา แล้วนายชยุตจะทำอย่างไร ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ใช่ว่าพอเขาพลาดปุ๊บก็เอาคู่แข่งเขามาเป็น สส.พรรค เพื่อเติมเสียง สส. เราคงไม่ทำอย่างนั้น
ขณะที่ “ซูการ์โน มะทา” สส.ยะลา และ เลขาฯ พรรคประชาชาติ ก็ปิดทางเข้าร่วมพรรคประชาชาติ เช่นกัน และระบุว่า พรรคประชาชาติไม่มีแนวคิดตกปลาในบ่อเพื่อน และไม่ได้ทาบทามให้ 2 สส.ดังกล่าวเข้าสังกัดพรรคแต่อย่างใด
มูลเหตุที่ 2 สส.ดังกล่าว ถูกขับออกนั้นเพราะผิดวินัยร้ายแรงของพรรคก้าวไกล ในกรณีที่สังคมรับรู้ ดังนั้นคิดว่าไม่รับเข้าพรรคแน่นอน และขอให้ในสภาชุดปัจจุบัน พรรคประชาชาติมี สส. 9 คนก็เพียงพอ
ขณะที่ ฝั่งของพรรคเป็นธรรม ก็ยังไม่มีสัญญานในการตอบรับอดีต สส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน เข้าสู้อ้อมอกแต่อย่างใด หลังได้เคยรับ “รองอ๋อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เข้าร่วมสังกัดเมื่อถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลมาแล้ว
ด้าน “กกต.” นายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต.ก็ย้ำว่า ทั้ง “สส.แจ้” และ สส.ปูอัด” หลังพรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรค จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน แต่หากไม่สามารถหาพรรคได้ จะต้องพ้นสภาพการเป็น สส.และต้องจัดการเลือกตั้งใหม่
ขณะที่ โอกาสที่พรรคการเมืองอื่น ๆ จะรับ สส.ไร้สังกัดทั้ง 2 คน เข้าพรรคก็ยิ่งดูเหมือนจะน้อยลงไปอีก เมื่อนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เตือนไว้ว่า พรรคการเมืองที่คิดจะรับ สส.ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออกมาเพราะมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศว่า อาจผิดข้อบังคับพรรค โดยเฉพาะคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะมาเป็น สส.
รวมถึง กฎหมายพรรคการเมืองปี 2560 ที่กำหนดคุณสมบัติไว้ด้วย หากหากพรรคใดตัดสินใจรับไว้ก็จะถูกร้องยุบพรรคได้
ฉะนั้น อนาคตของ สส.ไร้สังกัด ทั้ง 2 คน ที่ดูเหมือนกับว่า "กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง" เมื่อครบ 30 วันแล้ว จะเป็นอย่างไร วิบากกรรมนี้ยังต้องรอดู อีกไม่นานจะได้รู้กัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขับ "ปูอัด" ไชยามพวาน พ้นสมาชิกพรรค "ก้าวไกล"
"อนุทิน" เสียงแข็งไม่รับ "สส.แจ้" เข้า "ภูมิใจไทย" เหตุต้องคำนึงความเหมาะสม
วิบากกรรม 8 อดีต สส.ก้าวไกล "พลั้งพลาด" แพ้ภัยตัวเอง
ครอบครัวผู้เสียหายแจง 3 ข้อ โต้ "ปูอัด" ชี้แถลงจับแพะชนแกะหวังพ้นผิด
ไม่ลาออก "ปูอัด" แถลงยืนยันไม่คุกคามทางเพศ รอผล กกต.สอบ
"วุฒิพงศ์" สวนกลับ "ผู้ช่วย สส." ส่อเอื้อประโยชน์ซื้อที่ดิน