สะท้อนให้เห็นผลงานล่าสุดของ "อุ๊งอิ๊ง" ในการเคลียร์ปัญหากับ ร.ต.อ.เฉลิม ให้กลับมาคืนดีเหมือนเดิม ทั้งกับพรรคเพื่อไทย และคนในตระกูลชินวัตร หลังเกิดวลี "กวนโอ๊ยทั้งพ่อทั้งลูก" ระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร นอนพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากเรื่องจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ลงตัว ถึงขั้นมีการท้าทายประกาศให้ขับพ้นพรรคไปเลย
แต่โดยข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ ร.ต.อ.เฉลิม คือ ขุนพลเอกของพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย จะขาด ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเขาคือนักพูดที่มีลีลาแพรวพราว ชนิดมีเสียงฮาและเสียงปราบมือเป็นของแถมทุกครั้ง ทั้งยังมีเรื่องคอนเน็กชันกับผู้คนหลากหลายระดับ
นอกจากนี้ ยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับนายทักษิณ ก่อนหน้าจะเข้าฝ่ายหลังจะเข้าสู่เวทีการเมืองด้วยซ้ำ
เมื่อครั้ง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ควบคุมดูแลกิจการสื่อของรัฐ สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ ได้เป็นจุดเริ่มต้นของ ไอบีซี เคเบิลทีวี ที่มีนายทักษิณเป็นเจ้าของและผู้บริหาร เมื่อได้อนุมัติให้สัญญาสัมปทานจาก อสมท. เป็นรายแรก
ก่อนที่ต่อมานายทักษิณ จะกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ สร้างกิจการมากมาย จนถูกตั้งสมญาให้เป็น "อัศวินคลื่นลูกที่ 3" และตามด้วยการเข้าสู่เวทีการเมืองเป็นตัวตายตัวแทน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่พรรคพลังธรรม แต่เป็นช่วงที่คะแนนนิยมพรรคลดต่ำลง
นายทักษิณตั้งพรรคการเมืองของตนเอง คือพรรคไทยรักไทย พร้อมดึงกลุ่มการเมืองและก๊กต่าง ๆ ทั้งรุ่นเก่ารุ่นยังเติร์กเข้าร่วมกับพรรค ชูนโยบายประชานิยม จนสร้างประวัติศาสตร์ชนะเลือกตั้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ส่งผู้สมัคร สส.ของพรรคปี 2544 ได้จัดตั้งรัฐบาล และ นายทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ
ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนการเลือกตั้งปี 2548 ได้มีการควบรวมกิจการกับพรรคเสรีธรรม พรรคชาติพัฒนา และพรรคความหวังใหม่เข้ากับพรรคไทยรักไทย ทำให้การเลือกตั้งปีนั้น พรรคไทยรักไทยกวาดเสียงข้างมากเข้าสภาได้มากถึง 377 เสียง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
แต่การควบรวมพรรคความหวังใหม่ครั้งนั้น สมาชิกพรรคเกือบทุกคนย้ายไปพรรคไทยรักไทยด้วย ยกเว้น 2 คน ซึ่งรวม ร.ต.อ.เฉลิม ด้วย
กระทั่งหลังรัฐประหาร ปี 2549 นายทักษิณต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม จึงได้เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน ที่ตั้งขึ้นมาแทนที่พรรคไทยรักไทย และหลังเลือกตั้ง ปี 2550 ได้เป็น รมว.มหาดไทย
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ก็มีบทบาทโดดเด่นในพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยตลอด รวมทั้งทำหน้าเป็นองครักษ์ ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะเรื่องถูกกล่าวหาปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าว
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดตัว "อุ๊งอิ๊ง" ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม รวมทั้งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อปี 2564 และโดนจัดหนักจากนักการเมืองในซีกรัฐบาล รวมทั้ง สว.อีกหลายคน ทำนองด้อยค่าและจะพบจุดจบไม่ต่างจากพ่อและอา คนที่สวมบทกางปีกปกป้อง "อุ๊งอิ๊ง" หลายครั้ง คือ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ระบุชัดเป็นพวกอิจฉาตาร้อน หวังสกัดทายาทนายทักษิณ
เมื่อมีภาพ น.ส.แพทองธาร ไปปรากฏตัวที่บ้านหลังโตของ ร.ต.อ.เฉลิม ด้านหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า สายสัมพันธ์ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ยังแนบแน่นลึกล้ำเกินกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด
ขณะเดียวกันก็ถือเป็นผลงานล่าสุดของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่กำลังอยู่ในช่วงฝึกฝนทดลองงานการเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต
เป็นการเล่นตามบทที่ถูกวางพล็อตเรื่องไว้ล่วงหน้าแล้ว
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา