วันนี้ (20 ธ.ค.2566) พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร. ระบุถึงความคืบหน้าในการกู้เรือหลวงสุโขทัยที่อับปางเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2565 ว่า เป็นขั้นตอนที่ยากมาก เพราะเรือหลวงสุโขทัยจมที่ความลึก 50 เมตร การจะนำเรือรบทั้งลำขึ้นจากน้ำในระดับความลึก 50 เมตร ไม่ใช่เรื่องง่าย
ผบ.ทร.กล่าวว่า กองทัพเรือ ต้องการนำเรือหลวงขึ้นมาในสภาพสมบูรณ์ที่สุด เพราะเป็นวัตถุพยานเพื่อนำมาปิดคดี ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ ที่เข้าประมูล ต้องมีใบอนุญาตต่าง ๆ มากมาย ซึ่งขณะนี้น่าจะได้คำตอบที่ดี หากเป็นไปตามไทม์ไลน์คาดว่าจะเสนอให้ ผบ.ทสส.อนุมัติในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และจะเริ่มกระบวนการกู้เรือต่อไป ซึ่งหลังนำเรือขึ้นมาแล้วจะดำเนินการอย่างไร กองทัพเรือจะพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
หากสิ่งศักดิ์สิทธิมีจริง ก็ขอให้เรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาในช่วงต้นปีหน้า เดือน มี.ค.-เม.ย.2567
สำหรับความคืบหน้าขั้นตอนการประมูลของบริษัทที่จะมาดำเนินการกู้เรือนั้น ผบ.ทร.ย้ำว่า ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย ส่วนการสอบสวนคดีนี้จะสิ้นสุดในช่วงที่ทำหน้าที่เป็น ผบ.ทร.หรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า จะต้องจบในยุคนี้ เพราะเสนาธิการทหารเรือคนก่อนทำสำนวนไว้แล้วว่า เรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุในจุดใดบ้าง เมื่อนำเรือขึ้นมาแล้วก็จะตอบโจทย์ตามข้อสันนิษฐานในสำนวนคดี หากตรงตามนั้นก็เป็นอันว่าจบ และจะทราบว่าเรือจมเพราะอะไร
ส่วนสภาพของเรือหลวงสุโขทัยล่าสุดอยู่ในลักษณะใดนั้น ผบ.ทร.ระบุว่า เรือยังคงตั้งตรงเหมือนลอยอยู่บนผิวน้ำ หัวเรือหันหน้าไปทางศาลกรมหลวงชุมพร จ.ชุมพร ตั้งแต่วันที่จมจนถึงวันนี้ก็ยังอยู่ในสภาพนั้น
ส่วนที่มีข้อกังวลว่า จุดที่เสียหายจะถูกทำลายโดยธรรมชาติ และเสื่อมไปตามกาลเวลาหรือไม่ มองว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อาจจะมีเพียงตะไคร่น้ำเข้าไปเกาะที่ตัวเรือที่เป็นเหล็ก หากไม่มีอะไรไปกระทบตัวเรืออย่างรุนแรงสภาพของเรือก็จะอยู่เหมือนเดิม
ผบ.ทร.ย้ำว่า ในโอกาสวันกองทัพเรือ ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับกองทัพเรือ และลูกหลานเสด็จเตี่ยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมทั้งขอให้การผลักดันโครงการเรือดำน้ำประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดภาพล่าสุด "เรือหลวงสุโขทัย" เผยเหตุผลที่ต้องกู้ซาก