ปฏิบัติการบุกเข้าจับกลุ่มวัยรุ่นในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ภายในซอยวงศ์สว่าง 19 ตำรวจคุมตัววัยรุ่นชาย อายุ ช่วง 21 -25 ปี ได้รวม 6 คน ในจำนวนนี้มี 4 คน ที่พบรอยแผลเป็นรูป "เฟืองจักร" บนหัวไหล่ ซึ่งทุกคนมีรอยแผลคนละ 4 เฟืองจักร เท่ากัน ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจเป็นการจัดลำดับชั้นยศ ในกลุ่มองค์กร
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งข้อสันนิษฐานว่า สัญลักษณ์ที่พบเจอบนหัวไหล่ของผู้ต้องหาแต่ละเฟือง อาจระบุเรื่องราวต่างๆ เช่น เคยก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง หรือตำแหน่งหรือยศ มีทั้งบนร่างกายและเสื้อช็อปเครื่องแบบของพวกเขา ซึ่งเรื่องนี้เป็นประเด็นที่แยกย่อยออกไป
ตอนนี้ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือตามหาผู้ลั่นไก ต้องเอาตัวมาให้ได้
ส่วนเรื่องเฟืองจักร ไม่ว่าจะมีกี่เฟืองและมีความหมายถึงอะไร พล.ต.ต.ธีรเดช ไม่ได้คาดหวังคำอธิบาย
"เขาคงไม่ให้ความร่วมมือหรอกว่า มันคือ อะไร เพราะเป็นเรื่องปกปิดภายในองค์กร ซึ่งมีเพียงแค่คนในองค์กรเท่านั้นที่รู้ว่า หมายถึงอะไร ตอนนี้เราคงต้องตรวจสอบให้ละเอียดอยากให้มีความชัดเจนก่อน แต่เราตั้งประเด็นเบื้องต้นไว้แบบนั้น" พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว
ในงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจชุดคลี่คลายคดี เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ต้องตั้งข้อสงสัยในทุกประเด็น หาคำตอบในทุกเรื่อง ทุกเบาะแส ที่จะนำไปสู่การรวบรวมพยาน หลักฐานทางคดี เพราะผ่านไปนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ยังจับ 2 ผู้ก่อเหตุที่ลงมือยิงนักศึกษาอายุ 19 ปี และครูเจี๊ยบ เสียชีวิตในย่านคลองเตย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พฤศจิกายน มาดำเนินคดีไม่ได้
เปิดอีกมุม "ตำนาน 4 เฟืองทอง"
4 เฟืองทอง คือ โรงเรียนช่างกล 4 โรงเรียน ที่มีอาจารย์ใหญ่คนเดียวกันคือ อาจารย์สิทธิผล พลาชีวิน ในปี พ.ศ. 2500 เป็นช่วงที่มีความนิยมของประชาชนที่หันมาเรียนช่างกลมากขึ้น เพราะจบแล้วหางานง่าย โรงเรียนช่างกลปทุมวัน ถือเป็นโรงเรียนช่างกลแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ในนาม "โรงเรียนอาชีพช่างกล"
ต้องเพิ่มการรับนักเรียนจาก 300 คนต่อปี เป็น 1,200 คน ขยายการเรียนเป็น 2 ภาค คือ ภาคเช้าและภาคบ่าย แต่ก็ยังไม่เพียงพอจึงขยายโรงเรียนช่างกลเพิ่มขึ้น
อาจารย์สิทธิผล ได้รับความไว้วางใจจาก จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้น มอบหมายให้เป็นแม่งานในการดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนช่างกลเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วน จึงมีการจัดตั้งโรงเรียนช่างกลลพบุรีในปี พ.ศ.2500 ,โรงเรียนช่างกลนนทบุรี ในปี พ.ศ.2501 และโรงเรียนช่างกลพระนครเหนือ ในปี พ.ศ.2501 เช่นเดียวกัน
ในการก่อสร้างอาคารฝึกงาน มีการใช้แรงงานครูและนักเรียนช่างกลปทุมวัน เป็นกำลังหลักสำคัญ เชื่อมโครงอาคารเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปประกอบที่ปลายทางที่ตั้งโรงเรียนและในช่วงแรกอาจารย์สิทธิผล ก็ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ทั้ง 4 โรงเรียน
เพื่อวางรากฐานระบบให้มั่นคง และปลูกฝังให้นักเรียนทั้ง 4 โรงเรียนรักและสามัคคีกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จนเป็นตำนาน 4 เฟืองทอง มาถึงทุกวันนี้
ความสัมพันธ์ ฉันท์พี่น้องเฟืองทอง "ปทุมวัน" ในฐานะพี่ใหญ่ และการก่อกำเนิดโรงเรียนช่างกลอีก 3 แห่ง โดยมีครูและนักเรียนช่างกลปทุมวัน เป็นผู้สร้าง จึงเสมือนว่า ช่างกลปทุมวัน คือ พี่ใหญ่ โดยมีบทกลอน บรรยายความสัมพันธ์นี้ไว้ว่า
สี่สถาบันช่างกลทุกคนรู้ดี เรื่องศักดิ์เรื่องศรี มิมียอมใคร
เฟืองหนึ่ง พี่ท่านช่างกลปทุมวัน ตำนานเฟืองทอง
เฟืองสอง พี่รองน้อง น้องเคารพ ช่างกลลพบุรี
เฟืองสาม ชื่อเสียงกึกก้อง ช่างกลนนทบุรี
เฟืองสี่สุดท้องงามสง่า ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ช่างกลพระนครเหนือ
(ข้อมูลจาก : FB ห้องไฟฟ้า Electrical Room)
เมื่อ"ปทุมวัน"พี่ใหญ่เป็นจำเลยสังคม
ความหมายของ "เฟืองทอง" ในวันที่พี่ใหญ่ "ปทุมวัน" ตกเป็นจำเลยของสังคม
รศ.ดร.เสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เปิดประตูรับสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงถึงเรื่องราวที่ถูกพาดพิงถึงสถาบันอย่างหนักและเริ่มจะบานปลาย
รศ.ดร.เสถียร กล่าวว่า เฉพาะกลุ่ม 8-9 คน ที่ปรากฏชื่อตามข่าว ไม่มีใครที่มีสถานภาพเป็นนักศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน แต่มีบางคนที่เป็นศิษย์เก่า โดยพ้นสภาพไม่มาเรียน
เป็นการอุปโลกน์ในโลกเสมือนจริง เหมือนจัดตั้งขึ้นมาเองอย่างที่ตำรวจบอก บางคนศิษย์เก่าก็ไม่ใช่ ศิษย์ปัจจุบันก็ไม่ใช่ ซึ่งเราไปควบคุมเขาไม่ได้
แนวทางการแก้ปัญหา ของสถาบันฯ คือ หากมีบุคคลที่แอบอ้างชื่อสถาบันว่า เป็นนักศึกษาแล้วไปก่อเหตุอาชญากรรม ในคดีที่ผ่านมา จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติกร แจ้งความดำเนินคดีทุกราย
ส่วนการ "ปั๊มเฟือง" อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวว่า เพิ่งทราบพร้อมนักข่าวและดูจาก YouTube และสงสัยว่า มีแบบนี้ด้วยหรือ
รศ.ดร.เสถียร อธิบาย ความหมายของ "เฟือง"ว่า เป็นสัญลักษณ์ของวิศวะฯ ทุกที่ สำหรับที่นี่มีเฟืองดอกบัวเป็นแสงสว่างแห่งปัญญา จึงไม่ทราบว่า ปั้มไปทำไม เพราะตอนมาเรียนก็ใส่เสื้อแขนยาว
วัฒนธรรม "ปั๊มเฟือง" ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่เป็นเรื่องที่นักศึกษาทำกันมานานแล้วและเกิดขึ้นในหลายสถาบันช่างฯ
ในอดีตอาจหมายถึง ตราประทับ "รับเข้าระบบ" หลังผ่านการรับน้องด้วยวิธีการต่างๆ จากรุ่นพี่ ส่วนจะข้างซ้ายหรือข้างขวา อยู่ที่สมัครใจเลือก แน่นอนว่า ทุกคนสิทธิบนร่างกายของตัวเอง ตราบใดที่ไม่ได้ถูกบังคับ
และกรณีที่มีมากกว่า 1 เฟือง เป็นไปได้ว่า อาจขอปั้มเพิ่มจากรุ่นพี่หรือมีการย้ายสถาบันการศึกษาและได้รับเฟืองเพิ่มจากสถาบันแห่งใหม่ เพราะการ "ปั๊มเฟือง" ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับนักศึกษาปทุมวัน
หรือที่พบว่ามี 4 เฟือง อาจจะเป็นไปได้ว่า บุคคลนั้นเรียนที่ "ช่างกลปทุมวัน หรือ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน" ด้วยสื่อถึงความสัมพันธ์ 4 พี่น้องช่างกล
หากเทียบเคียงกับภาพนี้ จะเห็นว่า การปั้มเฟือง บนไหล่ มีตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับ สัญลักษณ์เฟือง ที่ปักลงบนผืนธง ซึ่งภาพนี้ คือ งานกีฬา 4 เฟืองทองหรือ "เฟืองทองสัมพันธ์" ซึ่งจัดครั้งแรกเมื่อปีการศึกษา 2512
ส่วน "เฟืองจักร" หมายถึง วิศวกรรม "4 เฟืองทอง" หมายถึง 4 พี่น้อง รู้รัก สามัคคี เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายและแฝงไว้ด้วยเรื่องราวที่มีคุณค่ายาวนานมาถึง 91 ปี
ตางจากสถานการณ์ในวันนี้ ความหมายที่มีกำลังถูกด้อยค่า ด้วยกลุ่มคนที่ถูกตีตราว่า เป็น"กลุ่มอาชญากร" จริงหรือไม่
รายงานโดย : กิตติพร บุญอุ้ม ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม
อ่านข่าวอื่น ๆ
"มีนบุรีโมเดล" ต้นแบบลดเหตุรุนแรง "นร.-นศ." สายช่าง
เร่งจับผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 คน คดียิงครูเจี๊ยบ-นศ.อุเทนฯ
เปิดเส้นทางรวมตัว "ช่างกล" สู่องค์กรอาชญากรรม