วันนี้ (7 ธ.ค.2566) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลกในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 พบว่ายังมีแนวโน้มราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยจะกระทบต่อราคาสินค้าและบริการในประเทศส่งผลต่อเนื่องถึงค่าครองชีพของประชาชน
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประชุม กบง. จึงมีมติ เห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่ออีก 3 เดือน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 มี.ค. 2567
นายพีระพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ แม้ว่าการตรึงราคาตามมติข้างต้น จะทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของบัญชีก๊าซ LPG ติดลบเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันการติดลบสุทธิอยู่ที่ประมาณ 47,764 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มี.ค.2567
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานได้ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงพลังงานจะเร่งบริหารจัดการสถานการณ์พลังงานโดยด่วน เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้พลังงานในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม และยั่งยืนต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ :
รัฐลดค่าครองชีพ ฉุดเงินเฟ้อ พ.ย. ลบ 0.44% ต่ำสุด 33 เดือน
ใช้จ่ายไม่คึกคัก หวั่นเกิดเงินฝืด จี้รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน