วันที่ 14 ธ.ค.2566 ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ออกหมายเรียกไปยังเพื่อนคนสนิทของ สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งก็เป็นผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จากหน้าผับไปส่ง สมรักษ์ และผู้เสียหายเยาวชนอายุ 17 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน ข้อหาที่แจ้งก็มีด้วยกัน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง และข้อหาร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร
อ่านข่าว : "สมรักษ์" พบตำรวจ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอโทษชาวไทย-ครอบครัว
มีรายงานข่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ชายคนนี้ เคยถูกตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้จัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม โดยพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ได้ส่งฟ้องศาลจังหวัดขอนแก่น ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าวแล้ว เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
ด้านนายวุฒิชัย พุ่มสงวน อัยการจังหวัดประจำสำนักอัยการสูงสุด ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแจ้ง 4 ข้อหา ทั้งพรากผู้เยาว์ และกระทำอนาจาร ผู้ที่อายุไม่เกิน 18 ปี ตามกฎหมาย ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถือได้ว่าเป็นการพรากไปจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง เว้นเสียแต่ผู้ถูกกล่าวหา ทราบอายุของผู้เสียหายหรือไม่
ส่วนข้อกล่าวหากระทำอนาจาร และพยายามข่มขืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย ต้องไปพิสูจน์กันในชั้นพนักงานสอบสวนหรือชั้นศาลว่า มีการฉุดกระชาก ลาก ดึง หรือไม่ ระหว่างเกิดเหตุ ผู้เสียหายสามารถขอความช่วยเหลือได้หรือไม่ และมีร่องรอยการทำร้ายร่างกายหรือไม่
หากล่วงล้ำเข้าไป อาจเข้าข่ายพยายามข่มขืน แต่ถ้าหากเป็นการล่วงเกินภายนอก เช่น กอดจูบลูบคลำ ก็อาจเข้าข่ายความผิดกระทำอนาจารเพียงอย่างเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เส้นทางชีวิต "สมรักษ์ คำสิงห์" เจ้าของวลี "ไม่ได้โม้" ก่อนโดนคดีพรากผู้เยาว์