วันนี้ (19 ม.ค.2567) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ค Yong Poovorawan ระบุ วัคซีนโควิด 19 และวัคซีนทุกชนิดมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็นป้องกันการติดเชื้อ ความรุนแรงของโรค รวมทั้งการเสียชีวิต
วัคซีนทุกชนิด ไม่ว่าวัคซีนที่ใช้ในเด็ก จะมีทั้งประโยชน์อย่างมาก และข้อเสียคืออาการข้างเคียง เกิดขึ้นได้ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการข้างเคียงจะพบน้อยมาก ๆ เช่นวัคซีนโปลิโออย่างกิน สามารถป้องกันโปลิโอได้ แต่ก็สามารถทำให้เกิดโรคโปลิโอได้เช่นกัน แต่โอกาสที่จะเกิดโรคโปลิโอจากวัคซีนอาจจะเป็นหนึ่งในล้านหรือหลายล้านโดส
ในทำนองเดียวกันวัคซีนโควิด-19 ที่ต้องนำมาใช้อย่างเร่งด่วน เพราะในปีแรกโควิด 19 มีอัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 3-5 ซึ่งสูงมาก และลดลงในปีต่อต่อมาเหลือ ร้อยละ 1 และจนในปัจจุบันน่าจะน้อยกว่าร้อยละ 0.1 ตามวิวัฒนาการของไวรัส และภูมิต้านทานของร่างกายที่เกิดขึ้นจากวัคซีนและการติดเชื้อทำให้โรคลดความรุนแรงลง
วัคซีนโควิด-19 เป็นที่ยอมรับกันว่ามีอาการข้างเคียง เช่น เป็นไข้ ปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เจ็บบริเวณที่ฉีด แต่มีน้อยมาก ที่จะทำให้เกิดความรุนแรง ถึงเสียชีวิต วัคซีนได้มีการนำมาใช้หลายๆพันล้านโดส แม้ในประเทศไทยก็มีการใช้มากกว่าร้อยล้านโดส ดังนั้นอาการข้างเคียงชนิดที่เกิดได้ 1 ในแสนหรือ 1 ในล้านก็จะพบได้ เช่นเดียวกับกัน
การใช้วัคซีนโควิด 19 ก็เช่นเดียวกัน เราคำนึงถึงผลได้และผลเสีย ถ้าโรครุนแรง โอกาสลงปอดสูงมากและมีอัตราตายสูงมากกว่า ร้อยละ 1 วัคซีนมีอาการข้างเคียงบ้างแต่น้อยกว่าความรุนแรงของการเกิดโรคอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "สถาบันวัคซีน" โต้กลับปมผลกระทบวัคซีนโควิด
เมื่อโควิดผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีข้อมูลออกมาชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 มีอัตราการเสียชีวิตเมื่อติดเชื้อน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน และลดความรุนแรงลงอย่างมาก เหลือเฉพาะความรุนแรงอยู่ในกลุ่มเปราะบาง
ความต้องการของวัคซีน ก็คงจะต้องเน้นไปยังกลุ่มเปราะบาง มากกว่าให้กับบุคคลทั่วไปที่มีร่างกายแข็งแรง และการให้วัคซีนก็ไม่ได้เป็นภาคบังคับ เป็นการให้ด้วยความสมัครใจ แต่หน้าที่ของเราคือจะให้ความรู้ทั้งหมดเพื่อไปประกอบการตัดสินใจ ทุกอย่างมีทั้งผลดีและผลเสีย แต่ถ้าผลดีมีเป็นจำนวนมากกว่าผลเสียอย่างมาก ๆ เราก็คงจะต้องยอม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : " ปั๊มลูกกู้ชาติ " แก้วิกฤตเด็กเกิดน้อย วัยแรงงานทิ้งช่วงยาว 20 ปี