วันนี้ (20 ก.พ.2567) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ปัญหาการส่งออกไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก อัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยไปยังประเทศคู่ค้าต่างๆ กลับมาขยายตัวได้ดีกว่า ปี2566 เช่น ในกลุ่มอาเซียน 9 ประเทศ พบว่า ขยายตัวร้อยละ 2.9 มูลค่าส่งออก 68,763 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อินโดนีเซีย ขยายตัวร้อยละ 2.6 มูลค่าส่งออก 10,309 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ลาว ขยายตัวร้อยละ 3.4 มูลค่าส่งออก 4,803 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนาม ขยายตัวร้อยละ 1.3 มูลค่าส่งออก 11340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
เช่นเดียวกับตลาดสำคัญ ๆ ที่มีสัดส่วน การขยายตัวดีขึ้นเทียบกับปี 2566 เช่น ตลาดสหรัฐ ที่ขยายตัวร้อยละ 2.4 มูลค่าส่งออก 50,018 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดจีน ขยายตัว ร้อยละ 2 มูลค่าส่งออก34,861 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดยุโรป ขยายตัวร้อยละ 2.1 มูลค่าส่งออก 22,303 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ2 มูลค่าส่งออก 25,164 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดอินเดีย ขยายตัวร้อยละ 3.8 มูลค่าส่งออก 10,504 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทวีปแอฟริกา ขยายตัวร้อยละ 2.1 มูลค่าส่งออก 7,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเกาหลีใต้ ขยายตัวร้อยละ 0.8 มูลค่าส่งออก 6,121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจได้วิเคราะห์สินค้าดาวรุ่งและสินค้าดาวเด่น ปี2567 เพื่อเป็นแนวทาง ให้กับผู้ประกอบการไทย เห็นถึงทิศทางความต้องการของตลาดส่งออก ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกไทยทั้งปีที่คาดการณ์ว่าขยายตัวที่ร้อยละ 2-3 มูลค่าส่งออกรวม 290,253-293,099ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เชื่อว่าส่งออกเดือนม.ค.ปีนี้จะโตประมาณร้อยละ 4-5 เนื่องจากฐานของช่วงเดียวกันของปีก่อนต่ำ โดยม.ค.2566 ส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 1.9 ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง การปรับอัตราดอกเบี้ยจะทั่วโลกจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลต่อการส่งออกไทยในครึ่งปีหลัง
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับ 10 สินค้าส่งออก ดาวเด่น คือ น้ำมันสำเร็จรูป ขยายตัว ร้อยละ 24.25 , โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัว ร้อยละ 33.45 , อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด ขยายตัวร้อยละ 30.58, ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 20.42
หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 32.14, รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 13.26, เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันเฉพาะตัวขยายตัวร้อยละ 12.45, แผงวงจรไฟฟ้า ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ขยายตัวร้อยละ 13.44 และเครื่องจักรกลขยายตัวร้อยละ 9.66
ส่วน 10 สินค้าส่งออกดาวรุ่ง มี รถแทรกเตอร์และยานยนต์ที่มีวัตถุประสงค์พิเศษ ขยายตัวร้อยละ 21.75, กระเป๋าเดินทางกระเป๋าอื่น ๆขยายตัวร้อยละ 37.41, ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งขยายตัวร้อยละ 14.86, ประทีปโคมไฟ เช่น สปอตไลตและโคมไฟ ขยายตัวร้อยละ 43.44 เส้นใยประดิษฐ์ ขยายตัวร้อยละ 12.17, นาฬิกาและส่วนประกอบขยายตัวร้อยละ 13.28
อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับให้สัญญาณเสียง เช่น กระดิ่ง ไซเรน สัญญาณกันขโมยขยายตัวร้อยละ13.94, เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ขยายตัวร้อยละ 8.45, ส่วนประกอบสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขยายตัวร้อยละ 13.94 และ เนื้อและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ขยายตัวร้อยละ 13.74
อ่านข่าวอื่นๆ:
“ส่งออกไทย” เจอพายุรอบทิศ “กบฏฮูตี-ศก.โลก-เงินบาทลด”
สภาพัฒน์ เผย ศก.ไทยปี 66 GDP โต 1.9% แนะแบงก์ชาติทบทวนนโยบายการเงิน
ม.หอการค้าชี้ คนแห่เข้าวัดทำบุญ "มาฆบูชา" เงินสะพัด 2.4 พันล้าน